'ออน - ชิชญาสุ์ กรรณสูต' ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปฏิเสธกระแสข่าวเตรียมขายลิขสิทธิ์การประกวดให้กับ 'ปุ้ย - ปิยาภรณ์ แสนโกศิก' ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัททีพีเอ็น TPN 2018 ที่ได้ลิขสิทธิ์จัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส Miss Universe 2018 ตั้งราคาสูงถึงหลักร้อยล้านบาท เนื่องจากลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เป็นสิทธิ์ที่ทางบริษัทต้นสังกัดพิจารณาให้กับบุคคลแบบปีต่อปี ซึ่งปกติจะแจ้งมาช่วงต้นปี ไม่สามารถซื้อขายได้ อีกทั้งตนเองกับ 'คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์' ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ก็ไม่เคยเจอหรือพูดคุยกับผู้ก่อตั้งบริษัททีพีเอ็น ตั้งแต่แถลงข่าวจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ชิชญาสุ์ กล่าวว่า ตนเองก็ไม่ได้ไปพูดคุยกับพอลล่า ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หรือยุ่งเรื่องลิขสิทธิ์การประกวดในปีหน้าเช่นกัน เพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองในปีนี้ให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องกระแสดราม่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อคนดูมีความคาดหวัง แล้วไม่ได้อย่างที่หวัง แต่ในความเป็นจริงโลกของคนดู กำลังใจ คนเชียร์ รวมถึงตัวนางงามก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่ทุกคนคิด หรือพฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่ก็มักจะติก่อนชมเป็นเรื่องปกติ แต่เราไม่สามารถควบคุมให้ทุกคนพอใจได้ 100%
นอกจากนี้ ชิชญาสุ์ ยังกล่าวว่า กระแสดราม่ามีมานานแล้ว แต่ยุคนี้มีโซเชียลมีเดีย กระแสดราม่าจึงเข้าถึงตัวเราได้มากขึ้น ดังนั้นเธอจึงเตือนตัวเองเสมอว่าต้องไม่เสียจุดยืน และต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งคุณแดงพูดเสมอว่าคนเราถ้าจะประสบความสำเร็จต้องผ่านจุดที่โดนว่าโดนติมาก่อน
"แม้คนที่เราได้มาอย่าง นิ้ง จะไม่ถูกใจคนทุกคน แต่เราก็ไปหาจุดดีของเขาแล้วดึงมันออกมาดีกว่า แทนที่จะไปฟังดราม่าแล้วก็หมดกำลังใจที่จะทำ"
ส่วนกรณี 'หมู - พลพัฒน์ อัศวะประภา' เจ้าของแบรนด์ ASAVA ที่ประกาศจะยุติการทำชุดให้มิสยูนิเวิร์ส ชิชญาสุ์ ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ปีหน้าพี่หมูคงไม่ทำแล้ว เพราะความจริง พี่หมู จะเลิกทำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คุณแดงขอให้มาช่วยปีนี้ เพราะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประกวด ซึ่งส่วนตัวคิดว่า แม้คนอาจไม่ชอบชุดพี่หมู แต่อยากให้เคารพการทำงานในบทบาทของแต่ละคน ผลงานที่ผ่านมาก็เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ ต่างรสนิยม ต่างความคิด มันไม่มีถูกหรือผิด แค่ชอบหรือไม่ชอบ แสดงความคิดเห็นกันได้ แต่อยากให้เคารพในหน้าที่ของทุกคน
นอกจากนี้ ชิชญาสุ์ ยังกล่าวถึงการประกวดว่า หากมองเป็นธุรกิจมันก็คือธุรกิจ แต่การทำนางงามก็ต้องใช้ใจทำด้วยประมาณหนึ่ง ที่ต้องมองทั้งศิลปะ ความเป็นผู้หญิง และคุณค่าในตัวผู้หญิง ซึ่งเป็นนโยบายที่คุณแดงผลักดันมาตลอด ความจริงแล้วเธอทำงานตรงนี้ กองประกวดก็พยายามทำความเข้าใจกับธรรมชาติของแฟนคลับ อยากรู้สิ่งที่เขาต้องการ และพยายามตอบสนองเท่าที่ทำได้ บางครั้งแฟนนางงามอาจจะไม่เข้าใจ หรือ เห็นในการทำงานของกองประกวด
คำพูด อารมณ์ หรือความคิดเห็นต่างๆ บางครั้งมีประโยชน์ หรือไม่ บางครั้งก็สร้างความเสียหาย และบั่นทอนความรู้สึกกันทุกๆ ฝ่าย ในขณะที่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน ว่าอยากเป็นผู้ชนะ แต่หากคนในประเทศเดียวกัน มาตำหนิกันเอง มันก็จะเป็นไปได้ลำบาก ถ้ามันสามารถพัฒนาควบคู่กันได้ วงการนางงามน่าจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้ 4 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทีมไทยแลนด์ก็รักษาระดับตัวท็อป โดยมี มารีญา พูลเลิศลาภ ทำดีที่สุดด้วยการเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย แต่ก็สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่ชาวไทยและแฟนคลับทั่วโลก เป็นสถิติที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ