วันที่ 10 มี.ค. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นจุดที่สองและสุดท้าย ในการลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา
เมื่อเดินถามถึงบริเวณงาน พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ เข้าพักในห้องรับรอง อบจ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นออกมาเดินทักทายประชาชนที่รอต้อนรับ และร่วมรับชมการแสดงจากประชาชน ก่อนกล่าวกับข้าราชการและประชาชนในพื้นที่
ขณะเดียวกันระหว่างที่ ขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กล่าวรายงาน โดยในช่วงท้าย ระบุว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำอยู่ดีอยู่แล้ว ตนขอให้กำลังใจ ให้ทำต่อไป ทำแล้ว ทำอีก ก่อนที่จะตะโกนว่า ผมขอสนับสนุนให้ทำต่อไปครับ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า วันนี้เป็นโอกาสหนึ่งที่ได้มาเยี่ยมเยียนแต่ใจมาตลอดเวลาอยู่แล้ว ตนเคยรับผิดชอบในพื้นที่ตั้งแต่ปฏิบัติหน้าที่รับราชการ ตนยินดีที่ได้รับโอกาสมาเป็นประธานเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ แล้วได้มาพบกับพวกเราอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการมาเป็นทางการครั้งที่ 3 ในช่วงที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี โดยในปีแรกจำได้ว่ามาปลูกป่า ที่อำเภอท่าตะเกียบ เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม ต่อมาก็มาดูเรื่องความคืบหน้าการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้อยากจะบอกซ้ำอีกครั้งว่า ตนดีใจถึงแม้ว่าอากาศจะร้อน อบอ้าว แต่ตนมีความสุขที่ได้มาเห็นรอยยิ้ม และผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้มีการกล่าวถึงการพัฒนาจังหวัด ตนเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ต้องดูแลประชาชนให้มีความสุข ดูแลทุกคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย พร้อมกับกล่าวว่า ตนขอโทษที่มือเจ็บเดี๋ยวก็หาย เมื่อสักครู่ขอพรพระ มีกำลังใจทำงานต่อไป ตลอดที่ผมยังอยู่ในหน้าที่
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่ารัฐบาลพยายามทำเรื่องความเท่าเทียมและความเป็นธรรม ฉะนั้นผู้ที่มีรายได้น้อย จะต้องได้รับการดูแลพอสมควร รัฐบาลพยายามทำทั้ง 2 อย่างที่จะพัฒนาทั้งกายภาพคือโครงสร้างพื้นฐาน และเรื่องสุขภาพ ขณะเดียวกันต้องให้ความรู้พัฒนาขีดความสามารถ ให้กับผู้มีรายได้น้อยเพื่อมีรายได้สูงขึ้นเพียงพอต่อครอบครัว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไปไม่ว่าผมจะอยู่หรือไม่ทุกรัฐบาลจะต้องทำแบบนี้
นายกรัฐมนตรี ยังชมถึงความสะอาดในพื้นที่ ที่แสดงถึงความเอาใจใส่ เก็บขยะแต่ไม่มากมาย ผมพูดเสร็จเดี๋ยวผู้ว่าฯ ก็ไปเก็บแล้วเย็นนี้ ผมพูดเล่น ธรรมดาคนเยอะแต่ทำอย่างไรต้องขจัดตั้งแต่ต้นทางให้ได้มากที่สุด หากทิ้งพ้นหน้าบ้านเรา ไปหน้าบ้านคนอื่น ก็เสียบรรยากาศ เสียการท่องเที่ยวทั้งหมด
ขณะที่การแก้ไขปัญหา PM 2.5 ทุกคนรู้อันตรายมาจากรถยนต์ ยานพาหนะ และการเผาวัชพืช ที่ทำให้อากาศเป็นพิษมาก ตนก็เห็นใจชาวเกษตรกรเกษตรกรรม ฉันต้องหาวิธีขจัดให้ได้ทำให้ขยะเหล่านี้มีมูลค่าให้ได้ ผลักดันให้เป็นวัตถุดิบในการสร้างพลังงานทำพลังงานหมุนเวียน เมื่อวานก็ประชุมในเรื่องนี้ โดยจะมีการสนับสนุน พร้อมย้ำว่าเราจะต้องประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุด ส่วนใหญ่เราใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งต้องนำเข้าวันข้างหน้าเราจะต้องไม่เดือดร้อนใน
โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า เราจะต้องทำให้เราเป็นเมืองแห่งโอกาส จะต้องไม่มีความขัดแย้ง ทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ เราอยู่กันแบบพหูสังคมพหุวัฒนธรรม นี่คือดินแดน ศักดิ์สิทธิ์รักษาไว้ยึดมั่นในชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ได้ เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ก่อนที่จะถามว่ามีใครจะถามอะไรหรือไม่ ต้องขอโทษด้วยที่ต้องแต่งกายไม่เรียบร้อยใส่ถุงมือ แต่ใจอยากมาก็ต้องมา ผมไม่ขอแก้ตัว แต่จะขอทำให้ดีที่สุด ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อจะดูแลพวกเราต่อไป ถ้ามีโอกาส
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ ก่อนที่จะพบปะกับประชาชนที่มารอให้กับต้อนรับอยู่บริเวณโดยรอบพื้นที่ โดยกล่าวขอบคุณ และอวยพรว่า ความสุขอยู่ที่ใจสุขกายก็อย่างสุขใจก็อย่าง บางอย่างซื้อกันไม่ได้ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองต้องใช้เวลาสักนิด ตนคิดว่าเดี๋ยวอะไรก็ออกดอกงอกงามงอกเงยเพื่ออนาคตของเราในวันข้างหน้าขอให้ช่วยกัน พร้อมกล่าวว่าตนจะพยายามทำจนกว่าจะไม่ได้ทำ ซึ่งมีประชาชนตะโกนว่าขอให้ลุงตู่สู้ๆ นายกรัฐมนตรีจึงตอบกลับว่า จะให้สู้กับใคร ตนไม่ได้สู้กับใคร แต่สู้เพื่อชาวฉะเชิงเทรา
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทาย กับประชาชน ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าสมัยเป็นพลทหาร ร.21 จากทักทายผู้นำท้องถิ่น ที่ชื่อประยุทธ์ โดยแซวว่าเกิดทีหลังชื่อเหมือนตนได้อย่างไร ก่อนจะอวยพรให้เดินทางกลับบ้านดีดี ถนนดีก็ขับรถเร็ว
ขณะเดียวกัน มีประชาชนอวยพรให้นายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ โดยบอกว่าประชาชนทั้งประเทศรออยู่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็กล่าวขอบใจ
นอกจากนี้ยังมีผู้ใหญ่บ้านทวงถามเพิ่มค่าตอบแทน โดยบอกว่า อบต.ขึ้นแล้ว อยากให้ขึ้นค่าตอบแทนเหมือน อบต. ขอให้นำเข้า ครม.ด้วย โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอให้รอก่อนรอก่อน ก่อนที่จะนำมือมาชี้ที่ปากในลักษณะให้หยุดพูด และสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ก่อนที่จะให้ พล.อ.อนุพงษ์ เข้าไปคุย
นอกจากนี้ยังมีข้าราชการครู นำภาพถ่าย ที่เคยถ่ายภาพร่วมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อ 6 ปีที่แล้ว มาให้นายกรัฐมนตรีเซ็น พร้อมบอกว่าดีใจ คนที่ได้เจอกับนายกฯในวันนี้
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า ระหว่างการถ่ายรูปร่วมกับประชาชนของนายกรัฐมนตรี จะมีการเว้นระยะและระวังเรื่องการใช้มือ เนื่องจากก่อนหน้านี้แพทย์เตือนให้ระวังเนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อได้
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการหาเสียง โดยห้ามนำสถาบันมาหาเสียง หลังจากนี้จะต้องมีการกำชับอะไรหรือไม่ ว่า เขารู้อยู่แล้ว วันนี้นายกฯ มาฉะเชิงเทราในฐานะนายกฯ ไม่ได้มาหาเสียง และไม่ได้เอาสถาบันมาหาเสียง แล้วสื่อไม่ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรืออย่างไร หากปกป้องก็จบ ทุกคนรู้อยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่ขอพรหลวงพ่อโสธร ให้มือหายบาดเจ็บนั้น นายกฯ ระบุว่า ตนก็พูดเหมือนทุกครั้ง สิ่งที่ตนขอให้ได้คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ประชาชนมีความสุขและดีขึ้น รวมถึงให้ตนสุขภาพร่างกายแข็งแรง ให้ทำงานต่อไปได้เพื่อประชาชนอีกนั้นแหละ ให้ครอบครัวตนมีความสุขและปลอดภัยบ้าง นั้นคือสิ่งที่ตนตั้งใจมาตลอดชีวิตของตน
เมื่อถามว่า ที่ประชาชนให้กำลังใจและขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อนั้น ถือเป็นกำลังใจในการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว และหันกลับขึ้นรถทันที แต่หันมาย้ำกับสื่ออีกครั้งว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง และขอให้ผู้สื่อข่าวเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย