ที่รัฐสภา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงผบจากการเสียบบัตรแทนกัน ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ของสภาผู้แทนราษฎร ว่า มีปัญหา 2 อย่างที่ต้องแยกกันคือ

1.ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าใครจะกดบัตรแทนใครก็ตาม 

2. ความรับผิดทางอาญาของเจ้าของบัตร ที่ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ว่ารู้เห็นเป็นใจให้คนอื่นกดบัตรแทนหรือไม่หากไม่รู้ก็ถือว่าไม่ผิด จึงต้องพิสูจน์ถึงเจตนาของเจ้าของบัตร ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร ต้องพิจารณาให้รอบคอบ โดยต้องดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2557 เสียบกรณีบัตรแทนกันในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ในสมัยรัฐบาบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นโมฆะ ซึ่งเรื่องนี้ว่าหนักกว่าคดีดังกล่าว เพราะนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ออกมายอมรับว่ามีคนเอาบัตรของตนไปกด ซึ่งข้อเท็จจริงรับฟังได้ก่อนที่จะไปสู้คดีในชั้นศาลแล้ว  

นายนิพิฏฐ์ ยังสงสัยว่าเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเอาข้อเท็จจริงมาจากไหนว่า นายฉลองไม่ได้ลงมติตั้งแต่มาตรา 31 เป็นต้นไป เพราะเวลาที่เครื่องบินออกจากสนามบินตรงกับการลงมติมาตรา 31 แต่นายฉลอง น่าจะออกจากรัฐสภาไปก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งต้องพิสูจน์ก่อนว่า ระหว่างเดินทางหรือรอขึ้นเครื่องบินในมาตราก่อนหน้านี้นั้น มีผู้เสียบบัตรแทนนายฉลองหรือไม่

แนะสละอวัยวะ รักษาชีวิต

นายนิพิฏฐ์ ยังเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย หรือยอมเสียสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต คือการให้นายฉลอง และนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ต้องมารับสารภาพว่าไม่ได้กดบัตรเองในมาตราใดบ้าง ซึ่งในความเห็นของนายนิพิฏฐ์ มองว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะแยกออกมาว่า มาตราใดที่เจ้าตัวกดบัตรเองจะไม่โมฆะแต่หากไม่ออกมายอมรับผิด ศาลรัฐธรรมนูญก็จะไม่มีทางเลือกอื่น ต้องวินิจฉัยให้กฎหมายทั้งฉบับกลายเป็นโมฆะ 

นายนิพิฏฐ์ ระบุว่าด้วยว่า ยังไม่ได้คุยกับทั้งสองคน แต่เชื่อว่า ทั้งประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยรวมถึงตนเองยังเข้าหน้ากันติด เพราะยังไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาและขอให้อย่าเบี่ยงเบนว่าตนกันแกล้ง โดยเทียบกับเมื่อตำรวจไปจับโจรก็อย่าไปโกรธตำรวจ ถ้าจะโกรธก็ต้องโกรธโจร

เตรียมปล่อยคลิปอีก

อดีต ส.ส.พัทลุง ยืนยันว่า หากทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ บ้านเมืองจะไม่เป็นอย่างนี้ รวมถึงหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาด้วย ซึ่งหากเล่นกันด้วยกติกาแฟร์ๆ ก็จะไม่ว่าอะไร จึงถามกลับไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยด้วยว่า มีน้ำใจนักกีฬาหรือแฟร์กับตนหรือไม่ โดยยกตัวอย่างการเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ที่ตนได้ไปยื่นต่อ กกต.ตั้งแต่ก่อนวันที่ 24 มี.ค. 2562 พร้อมคลิปหลักฐานการเก็บบัตรประชาชนจำนวน 40,0000 ใบ เพื่อซื้อเสียงของพรรคภูมิใจไทย แต่ กกต. ยึกยักไม่มีความคืบหน้า พร้อมเปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเปิดคลิปให้สื่อมวลชนดูอีกครั้งในเรื่องการซื้อเสียงของพรรคภูมิใจไทยด้วย