วันนี้ (26 พฤษภาคม 2568) นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนเยาวชนอาเซียน (ASEAN Youth) โดยมีผู้นำและผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน เลขาธิการอาเซียน นายกรัฐมนตรีติมอร์-เลสเต (ในฐานะผู้สังเกตการณ์) และผู้แทนเยาวชนอาเซียน เข้าร่วม
ภายหลังเสร็จสิ้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของถ้อยแถลง ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ได้มีโอกาสพบและรับฟังความคิดเห็นของผู้แทนเยาวชนอาเซียน เกี่ยวกับแนวทางในการสร้างอนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืนให้กับภูมิภาค โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า เยาวชนถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนอาเซียนไปข้างหน้า พร้อมทั้งเสนอ 3 แนวทางสำคัญ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและการมีส่วนร่วมของเยาวชนในอาเซียน ได้แก่
ประการแรก อาเซียนควรส่งเสริมบทบาทเชิงรุกของเยาวชนในการรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยทักษะและความสามารถของเยาวชน ทั้งในด้านการปรับตัว ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะดิจิทัล จะสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่ส่งเสริมนวัตกรรม ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ ๆ และความปลอดภัยในโลกออนไลน์
นอกจากนี้ พลังและความมุ่งมั่นของเยาวชนยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ผ่านการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ เครื่องมือดิจิทัล และเวทีสำหรับการมีส่วนร่วม อาเซียน จะสามารถดึงศักยภาพของเยาวชนออกมาใช้เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน และสร้างภูมิภาคที่เข้มแข็ง พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้อย่างมั่นคง
ประการที่สอง อาเซียนควรลงทุนเพิ่มเติมในโครงการพัฒนาเยาวชน และส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดน เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงพลังในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของภูมิภาค โดยความคิดสร้างสรรค์และทัศนคติที่มุ่งมั่นของเยาวชนมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ผ่านการเรียนรู้ การริเริ่มของประชาคม และการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย
ประการสุดท้าย อาเซียนต้องเตรียมความพร้อมของเยาวชนให้มีทักษะที่จำเป็นต่ออนาคต ผ่านการส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอบรมที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม เพื่อให้เยาวชนมีทักษะการวิเคราะห์ (Analytical) และการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) ที่เข้มแข็ง บนพื้นฐานจริยธรรมและค่านิยมสากล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญที่หล่อหลอมเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ และมีบทบาทในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานของเครือข่ายเยาวชนอาเซียน เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพ ความเป็นเอกภาพ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างกันเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างอนาคตของอาเซียนที่ครอบคลุม และยั่งยืน