ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุกรณีที่มีกระแสข่าวรัฐประหารว่า ข่าวลือก็คือข่าวลือ มีคนพยายามสร้างสถานการณ์ให้คิดว่าจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร พยายามหยิบประเด็นหลายอย่างมาเชื่อมโยงกัน ซึ่งไม่ได้เป็นความจริง การนำยานพาหนะของกองทัพออกมาก็เพื่อไปฝึก แต่มีการนำไปตีความ จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกเป็นเหยื่อโซเชียลมีเดียที่พยายามบิดเบือนเชื่อมโยงสถานการณ์ ซึ่งความจริงแล้วไม่มีอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์การเลือกตั้ง ตนยืนยันจุดยืนของกองทัพยังเหมือนเดิม
เมื่อถามว่า มีความพยายามทำให้เกิดความหวาดระแวงหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่โหมดการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง และขณะนี้จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งใครจะทำอะไรก็จะนำมาผูกโยงเรื่องการเมืองทั้งนั้น ซึ่งก็เป็นกลุ่มคนหน้าเดิมๆ ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวจะเชื่อมโยงเหตุการณ์วันที่ 8 ก.พ.หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า กองทัพกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ ยืนยันว่า กองทัพวางตัวเป็นกลาง จะยืนเคียงข้างประชาชนและที่เคยพูดไว้แล้วว่าอย่าล้ำเส้น ซึ่งคำนี้มีความหมายอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนอยู่ในกติกาของตนเอง อย่าล้ำเล้น
เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้กองทัพต้องระวังตัวมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า กองทัพระวังตัวมานานแล้วและในวันนี้มีการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ตนได้เน้นย้ำกำลังพลทุกคนในการวางตัวจากนี้ไปต้องระมัดระวังทุกฝีก้าวอย่าให้ตกเป็นเหยื่อ และขอให้มีวินัย ยึดถือในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่อยู่ในหัวใจของทุกคนอยู่แล้ว แต่การกระทำในวันนี้เราต้องไปอยู่ในโหมดของการเมืองคือห้วงการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นการดำเนินการต่างๆ เช่น การขอกำลังไปช่วยเหลือในคูหาเลือกตั้ง ทุกอย่างมีกฎระเบียบอยู่แล้วตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประกาศมา ซึ่งตนได้เน้นย้ำผู้บังคับหน่วยไปชี้แจงกำลังพลให้ไปปฏิบัติตัวให้ถูกต้องว่าเราต้องรักษาความเป็นกลางทั้งในฐานะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) และคสช.ต่อการเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า มีพระราชโองการออกมาแล้ว ตนไม่อยากพูดอะไรอีก ซึ่งต้องยกไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม เมื่อถามย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในเมื่อมีพระราชโองการออกมาแล้วก็ขอให้น้อมนำไปปฏิบัติ
เมื่อถามว่าหากมียุบพรรคไทยรักษาชาติ จะดูแลสถานการณ์อย่างไร โดยเฉพาะกลุ่มความเคลื่อนไหวของคนหัวรุนแรง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์กันว่าผลจะเป็นแบบนั้น ซึ่งทุกอย่างมีกระบวนการและระเบียบการปฏิบัติอยู่แล้ว ต้องให้เป็นเรื่องของทางการเมือง ตนคงไปพูดอะไรไม่ได้ หากพูดไปก็จะนำไปโยงเป็นเรื่องการเมืองอีก ตนถึงย้ำว่าเราต้องวางตัวเป็นกลาง
"ในสิ่งที่พูดวันนี้ ผมยังยืนยันในความเป็นกลางอยู่ กกต.ก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ผมไม่สามารถไปพูดอะไรกับ กกต.ได้ และทุกวันนี้ผมก็ยังไม่อยากพูดกับใคร ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ล้ำเส้นซึ่งกันและกัน หน้าที่ใครทำอะไรก็ทำไป และสุดท้ายหากมีการล้ำเส้นกันจะทำอย่างไรนั้น ผมคิดว่าขณะนี้ยังไม่มี และถ้ามีก็ค่อยคิดกันต่อไปว่าจะทำอย่างไรก็ต่อไป แต่เชื่อว่าคงไม่มี เพราะทุกวันนี้คนมองไปสู่การเลือกตั้ง ขอให้เป็นไปตามครรลองที่ถูกต้องของการเลือกตั้ง ซึ่งผมเชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์อะไร” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบการปลอมราชกิจจานุเบกษา พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า มีคนทำเพื่อสร้างสถานการณ์ เพราะฉะนั้นการรับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียต้องใช้วิจารณญาณ ทั้งนี้ได้ให้ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก (ศซบ.ทบ.)ติดตาม ซึ่งคงจะมีคนคิดอะไรแปลกๆ และไปดำเนินการ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่กำลังหาตัวอยู่และคิดว่าน่าจะได้ตัวแล้วกับขบวนการที่พยายามสร้างความสับสนให้กับประชาชน และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวสาร