จากกรณีที่นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ระบุว่าการให้เงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายละ 300 บาท ประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรไม่ได้ประโยชน์นั้น
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่า การเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น เป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ประคับประคองในยามเศรษฐกิจชะลอตัวเท่านั้น และเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เนื่องจากอัดฉีดเม็ดเงินตรงลงไปที่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ถือบัตรทุกคน ได้ 500 บาทต่อเดือน กลุ่มผู้สูงอายุได้เพิ่ม 500 บาทต่อเดือน และกลุ่มผู้ปกครองที่เลี้ยงดูบุตรได้เพิ่ม 300 บาทต่อเดือน โดยวงเงินนี้ให้เพียง 2 เดือนคือ ส.ค. - ก.ย. ในส่วนของกลุ่มเกษตรกรนั้น เพิ่งได้รับเงินช่วยเหลือไปเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จากมาตรการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายละ 1 ,000บาท เพื่อเป็นต้นทุนในการจัดซื้อปุ๋ยและปัจจัยการผลิตในการทำการเกษตร
"จะเห็นได้ว่าการช่วยเหลือประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่ม และมีความโปร่งใสให้เงินถึงมือโดยตรง มีระบบที่ตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการรั่วไหล" น.ส.ทิพานัน กล่าว และขอบคุณฝ่ายค้านที่หันมาให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ดีกว่ามุ่งแต่ปัญหาการเมือง เนื่องจากความเดือดร้อนของประชาชนเป็นปัญหาเร่งด่วน แต่ฝากข้อห่วงใยในการลงพื้นที่ไปพบปะให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือปะชาชนนั้น จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและไม่เป็นภาระของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย
ส่วนกรณีที่ นายการุณ ออกมาเรียกร้องให้พักชำระหนี้เกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมนั้น รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล ได้สั่งการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ขยายเวลาชำระหนี้ ให้สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินไม่เกินรายละ 50,000 บาท ดอกเบี้ย ร้อยละ 0 ระยะเวลา 6 เดือนแรก และสินเชื่อฟื้นฟู และพัฒนาคุณภาพชีวิต รายละ 500,000 บาท ดอกเบี้ย 4.87 ชำระคืนไม่เกิน ซึ่งเกษตรกรที่ได้รับความเดือร้อนสามารถต่อต่อกับ ธ.ก.ส.ในพื้นที่เพื่อขอรับการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ได้ทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง