นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของฝ่ายค้านว่า เป็นเรื่องภายในของพรรคเศรษฐกิจใหม่ จึงต้องเคารพว่าทุกพรรคมีกลไกการทำงาน และมีอิสระในการทำงานของตนเอง ดังนั้นก็ต้องขอให้กำลังใจพรรคเศรษฐกิจใหม่ ให้ยืนเคียงข้างประชาชน ตามหลักประชาธิปไตยต่อไป

ส่วนการวางบุคคลลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น พรรคอนาคตใหม่มีความชัดเจนไปแล้ว 2 จังหวัด คือจ.บึงกาฬ และจ.นนทบุรีในวันนี้ ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ของประเทศไทยที่มีการประชันวิสัยทัศน์ ตัวแทนผู้สมัครนายกอบจ.ของพรรคการเมือง โดยให้ผู้สมัครทั้ง 2 มาประชันในการแถลงนโยบายในการพัฒนาจ.นนทบุรีว่า ในอนาคตต่อจากนี้จะมีหน้าตาอย่างไร งบประมาณอบจปีละ 2 พันล้านควรจะเอาไปใช้ทำอะไรอย่างไรบ้าง โดยให้กรรมการบริหารพรรครวมถึงชาวจังหวัดนนทบุรีได้มีส่วนร่วม ตัดสินว่าใครในสองคนนี้ มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้สมัครในนามของพรรคอนาคตใหม่  ขณะที่ในส่วนของจังหวัด อื่นๆนั้นอยู่ในขั้นตอนของการคัดกรองของคณะกรรมการบริหาร

ส่วนเรื่องการส่งบุคคลชิงเก้าอี้ผู้ว่ากทม.นั้น กรรมการบริหารกำลังพิจารณาในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ขอย้ำว่าพรรคอนาคตใหม่ส่งก็ต้องมีการคัดเลือกบุคคลที่มีคุณภาพ และเป็นบุคคลที่ไม่มีคดีความ ไม่มีข้อครหาเรื่องการทุจริต ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่สามารถหาบุคคลที่ มีคุณภาพที่ จะลงสมัครได้

เมื่อถามถึงการเปิดอภิปรายทั่วไปตาม ม.152 ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาตอบเองหรือไม่

นายธนาธร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเข้ามาตอบในสภาผู้แทนราษฎรสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ทำจะต้องชี้แจงกับประชาชน ว่าทำไมถึงมีการนำกล่าวถวายสัตย์ไม่ครบตามที่ระบุไว้ ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งนี่เป็นการผิดรัฐธรรมนูญชัดเจน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ทำอย่างนี้ หากต่อไปใครที่ชนะเลือกตั้งและได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะแถลงอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ และย้ำว่าจะต้องมีการชี้แจงแบบเปิดเผยด้วย เพราะประชาชนทั่วประเทศให้ความสนใจ และต้องการรู้ว่าเหตุผลอะไรที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถวายสัตย์ไม่ครบ ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ