ไม่พบผลการค้นหา
'วิรัช' ยืนยันไม่พบสัญญาณพรรคร่วมโหวตสวนมติ ย้ำท้ายที่สุดมติต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขณะไม่ห่วง 'ประวิตร' ถูกอภิปราย แจงให้ 'วิษณุ' เป็นวิทยากรเพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญ

วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวถึงการซักซ้อมเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ ว่า เป็นการให้รัฐมนตรีแต่ละท่านที่จะถูกอภิปรายมาฟังความคิดเห็นจากบรรดา ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลที่ถือเป็นสนามซ้อมใหญ่ และเป็นการพบปะพูดคุยกันหากมีประเด็นที่เคลือบแคลงสงสัย ก็จะได้เบาใจลงได้บ้าง

ส่วนกรณีที่พรรคเล็ก มีแนวโน้มว่าจะโหวตไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี หากรัฐมนตรีชี้แจงไม่ชัดเจนนั้น วิรัช ระบุว่าส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับพรรคเล็กอยู่บ้าง แต่ยังไม่พบว่ามีสัญญาณที่บ่งบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลก็ควรมีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมีการประชุมร่วมวิปรัฐบาลและประชุมพรรคพลังประชารัฐกันอีกครั้ง ในช่วงเช้าของวันที่ 16 ก.พ.

อย่างไรก็ตาม มติของแต่ละพรรคก็จะต้องรอฟังการอภิปรายของรัฐมนตรีก่อน แต่สุดท้ายก็จะต้องเป็นมติของวิปรัฐบาลที่จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 

ส่วนกังวลรัฐมนตรีท่านใดเป็นพิเศษหรือไม่นั้น วิรัช ยังไม่ขอตอบ ยังไม่สามารถตอบได้ และขอตอบในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ. 2564) เพราะมีกระแสข่าวจากทุกทิศทางพร้อมระบุว่า พล.อ.ประวิตร มีความน่าเป็นห่วงน้อยที่สุด เพราะไม่มีอะไรต้องห่วง

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ไม่จำเป็นต้องเก็งข้อสอบเพราะเห็นข้อสอบอยู่แล้ว ในญัตติของฝ่ายค้านที่ได้ส่งมา และจากการแถลงข่าวของฝ่ายค้านเองในแต่ละครั้ง หากมีการอภิปรายใดที่ไม่ตรงตามเนื้อหาและพาดพิงถึงสถาบัน ก็คงจะต้องมีการประท้วง ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการประชุมลับในประเด็นนี้

ส่วนที่เชิญ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีมาเป็นวิทยากรในการติวครั้งนี้นั้น เพราะเห็นว่า วิษณุเป็นกูรูที่สำคัญที่สุด และมีความชำนาญในทางการถูกซักฟอกและเป็นผู้ซักฟอก ซึ่งสามารถเป็นแนวทางให้รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกนำไปใช้ได้

อย่างไรก็ตาม ในวันอภิปราย รัฐมนตรีที่ไม่ถูกอภิปรายก็จะเข้าร่วมด้วย เพื่อเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน จะไม่ปล่อยให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเหงาและเดียวดาย ทุกทิศทางจะต้องพร้อมสนับสนุนข้อมูล

วิรัช ยังได้กล่าวถึงคำร้องที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยอำนาจของรัฐสภา ในการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ว่า หากศาล ชี้ว่าการยกร่างฉบับใหม่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ก็ยังมีช่องทางตามกฎหมายในการแก้รัฐธรรมนูญ คือการแก้ไขแบบรายประเด็น 

วิรัช ยังชี้แจงว่า หากไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย จะมั่นใจได้อย่างไรว่า เมื่อถึงการพิจารณาในวาระ 3 ช่วงสมัยวิสามัญ รัฐสภาจะได้เสียงสนับสนุนที่เพียงพอ โดยเฉพาะเสียงให้ความเห็นชอบจาก ส.ว. เพราะที่ผ่านมา ก็ได้พยามสร้างความเข้าใจ ตั้งแต่การตั้ง กมธ. ก่อนรับหลักการ เพื่อให้ ส.ว. เข้าใจ ความคิด และเจตนาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

พร้อมกับย้ำว่า ขณะนี้ กมธ. ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ และเตรียมเข้าวาระที่ 2 ในวันที่ 24-25 ก.พ. นี้ ยืนยันว่ารัฐบาล ไม่ได้เข้ามาแทรกแซงสั่งการ การทำงานของ กมธ. ทั้งนี้ วิรัช ยังกล่าวตัดพ้อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งนี้เจอปัญหาและอุปสรรคมากที่สุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :