ไม่พบผลการค้นหา
'สเปอร์ส' พลิกเอาชนะ 'อาแจ็กซ์'ยอดทีมฟุตบอลจากเมืองเนเธอร์แลนด์ในช่วงช่วงทดเจ็บ ด้วยสกอร์ 3 - 2 ทำให้ชนะด้วยสกอร์รวมตามกฎประตูทีมเยือน เข้ารอบชิงกับ 'ลิเวอร์พูล' ขณะที่ตำนานแมนฯ ยูไนเต็ด ชี้สเปอร์ส เหมาะสมถ้วยใบใหญ่ของยุโรป

คืนก่อนหน้าเป็นของลิเวอร์พูล และท็อตแนม ฮ็อทเปอร์สเป็นเจ้าของค่ำคืนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าทีมฟุตบอลจากพรีเมียร์ลีกของอังกฤษจะพากันสร้างปาฏิหารย์แบบสั่งได้

เริ่มจากลิเวอร์พูลที่ไปพ่ายแพ้ต่อบาร์เซโลนาในนัดแรกก่อน 3 - 0 และต้องการถึง 4 ประตูในการเข้ารอบ มาจนถึงการแพ้ในบ้าน 1 - 0 ของสเปอร์สต่ออาแจ็กซ์ และบุกไปโดนนำถึง 2 - 0 ในครึ่งแรก แต่พลิกกลับมาชนะ 3 - 2 ในช่วงทดเวลา นาทีที่ 90+6 

'เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่' ผู้จัดการทีมสเปอร์สถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหวเมื่อกรรมการเป่าเสียงนกหวีดหมดเวลา พร้อมกล่าวว่าตนไม่สามารถบรรยายความรู้สึกที่ก่อตัวอยู่ข้างในออกมาเป็นคำพูดได้ 

สเปอร์ส


"มันเป็นหนึ่งในคืนสำคัญในชีวิตผม ทั้งหมดเพราะฟุตบอล เหล่าผู้เล่นคือฮีโร่ของผม ปีที่แล้วผมก็บอกว่าพวกเขาคือฮีโร่ของผม" โปเซ็ตติโน่ กล่าว


"การไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ไม่ต่างกับความมหัศจรรย์นั่นแหละ" โปเซ็ตติโน่ กล่าว

ถ้าใจไม่แพ้โดนนำก่อนก็ไม่แพ้

สเปอร์ส

สถานการณ์ในค่ำคืนการไปเยือนอัมสเตอร์ดัมอาเรนาเต็มไปด้วยความกดดันของทีมเยือนอย่างสเปอร์ส ทั้งการเป็นทีมเยือน และการแพ้ในบ้านของตนเองก่อน 1 - 0 ซึ่งต้องมาโดนตอกย้ำด้วยการขึ้นนำของฝ่ายอาแจ็กซ์ตั้งแต่นาทีที่ 5 จากลูกโหม่งของ 'มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์' และในนาทีที่ 35 จากจังหวะที่ สเปอร์ส เสียบอล ทำให้ 'ฮาคิม ซีเย็ค' วิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้ายเต็มข้อผ่านมือ 'ฮูโก้ ยอริส' ทำให้สกอร์รวมตอนนี้ สเปอร์สตามอาแจ็กซ์ อยู่ 3 - 0 

อย่างไรก็ตาม ความท้อแท้และการถอดใจเป็นสิ่งที่ไม่อยู่ในสายตาของผู้เล่นสเปอร์สเมื่อกลับเข้ามาในครึ่งหลัง และกำลังใจในการเล่นต่อส่งผลให้สเปอร์สได้ประตูแรกในนาทีที่ 55 และประตูต่อมาในนาทีที่ 59 จาก 'ลูคัส' ส่งผลให้สกอร์รวม สเปร์สตามอาแจ็กซ์มาเป็น 3 - 2

สเปอร์ส

เกมทำท่าจะจบที่ผลเสมอและส่งให้อาแจ็กซ์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ถ้าลูคัสไม่ทำแฮตทริกให้ตัวเองและทำประตูแห่งชัยชนะในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90 + 6 ส่งผลให้สเปอร์สเอาชนะอาแจ็กซ์ไปได้ 3 - 2 และมีสกอร์รวม 3 - 3 ผ่านเข้าไปสู่นัดชิงชนะเลิศด้วยกฎประตูทีมเยือน ไปพบกับ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ

ผู้เชียร์จากต่างทีม

หลายคนที่ได้ดูเกมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ทำให้บรรดาทีมจากพรีเมียร์ลีกก็ดูจะมีความสุขที่ผู้เข้าชิงในปีนี้ล้วนมาจากอังกฤษทั้งสิ้น

'แกรี่ เนวิลล์' ตำนานแบ็คขวา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาทวีตข้อความพร้อมรูปตราสโมสรสเปอร์สมีใจความว่า "พวกเขาเหมาะสมที่จะได้ถ้วยนี้จริงๆนะ ว่าไหม"


ขณะที่อดีตนักเตะแมนยูอีกคนอย่าง 'ริโอ เฟอร์ดินานด์' ทวีตคลิปที่ตนเองดีใจสุดขีดจนกระโดดจากที่นั่นพร้อมเขียนว่า "ถ้าคุณรักฟุตบอลคุณจะเข้าใจอารมณ์นี้ ว้าว!!!" 


ดูเหมือนว่ารอบชิงชนะเลิศในวันที่ 1 มิ.ย. ที่มาดริด ประเทศสเปน นอกจากสเปอร์สจะได้กำลังใจอย่างท่วมท้นจากแฟนทีมตัวเอง คงจะได้กำลังใจไม่น้อยจากสาวกแมนฯยูไนเต็ดเช่นกัน

หลายครั้งที่กีฬากลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายหรือการเป็นเพียงการพนันขั้นเวลา แต่ทุกครั้งจะมีช่วงเวลาแห่งความสำร็จและความยิ่งใหญ่เหมือนสองค่ำคืนที่ผ่านมา ที่ปาฏิหาริย์เปิดขึ้นกับทีมจากลักอังกฤษอย่างต่อเนื่อง 

ถ้าค่ำคืนในแอนฟิลล์และอัมสเตอร์ดัมจะให้อะไรกับผู้ชมอย่างเราบ้างนอกจากความสุขของผู้ชนะและความเศร้าของผู้พ่ายแพ้ ก็คือคุณภาพขั้นสูงสุดของกีฬา การเตรียมพร้อมและความใจสู้ไม่ย่อท้อ อีกทั้งยังยกระดับกีฬาให้กลายเป็นศิลปะแห่งการเคลื่อนไหว ที่ล้อลั่นกันไปอย่างหนักหน่วงและสวยงามตลอดเวลาการแข่งขัน 

อ้างอิง; ESPN, The Guardian