ที่รัฐสภา เวลา 10.30 น. ภาคนักเรียนสื่อ ได่เดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐสภา เพื่อขอให้ยุติการเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้รับมติเห็นชอบจาก ครม. ก่อนหน้านี้ โดยยื่นหนังสือ พร้อมด้วยรายชื่อประชาชนที่ค้านคัดร่างกฎหมายดังกล่าว 17,798 รายชื่อ ผ่านคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ณิชากร เมฆวรวุฒิ นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนภาคีนักเรียนสื่อ กล่าวก่อนยื่นหนังสือว่า ทางกลุ่มได้รวบรวมรายชื่อเพื่อคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ฉบับรัฐบาลประยุทธ์ ผ่านทางเว็บไซต์ Change.org ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. โดยจะนำรายชื่อนี้ยื่นต่อ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อผลักดันข้อเรียกร้องของประชาชน

ชยพล มาลานิยม นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนภาคีนักเรียนสื่อ กล่าวด้วยว่า สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม คือการออกข้อกำหนดห้ามเปิดเผยข้อมูลบางประการของกน่วยงานรัฐ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ การปราบปรามการก่อการร้าย ความเสียหายด้านการคลัง ข้อมูลการต่างประเทศ และรวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และการถวายความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังมีมาตราหนึ่ง ระบุด้วยว่า หากประชาชนขอข้อมูบจากหน่วยงานรัฐมากเกินไป บ่อยครั้งเกินไป หรือมีเจตนาก่อกวน หน่วยงานรัฐมีสิทธิไม่ให้ข้อมูล

ชยพล ระบุด้วยว่า สิ่งที่น่าเป็นหวังอีกประการหนึ่งคือ อัตตราโทษใน ร่าง พ.ร.บ. ฉบับรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งมีการปรับโทษให้สูงขึ้นจาก พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร 2540 โดยกำหนดอัตราโทษจำคุกสำหรับการเปิดเผยข้อมูลที่ขัดต่อกฎหมาย สูงสุดถึง 10 ปี และปรับไม่เกิน 400,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราโทษที่เทียบเท่าคดีอุกฉกรรจ์

”ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้มีการสื่อสารกับประชาชนน้อยถึงข้อดี และข้อเสีย แม้จจะมีการแจกแจงในเว็บไซต์ของรัฐบาล แต่ไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้เป็นวงกว้าง และวันนี้เราต้องการเรียกร้องต่อสภาผู้ราษฎร เพราะสามารถที่จะกยุดยั้งหรือชะลอให้เกิดการทบทวนแก้ไขได้” ชยพล กล่าว

ด้าน วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวก่อนรับมอบรายชื่อ ระบุว่า ร่างกฎหมายของรัฐบาบฉบับนี้ มีหลักการคือ ปกปิดเป็นหลัก เปิดเผยเป็นข้อยกเว้น ซึ่งแต่ต่างจากร่างของพรรคก้าวไกลที่ระบุให้ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงได้ง่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และประชาชนสามารถร้องขอเพื่อเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้

อย่างไรก็ตาม ร่่างกฎหมายนี้อาจจะถูกตีความว่าเป็นกฎหมายปฏิรูป ซึ่งจะมี ส.ว. เข้ามาร่วมพิจารณาด้วย จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยกันจับตาเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วย