ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันไม่มีคุก VIP ในเรือนจำ แต่ยอมรับสภาพคนล้นคุก พร้อมเผยมีระบบให้ญาติเยี่ยมนักโทษ ผ่าน Application LINE แล้ว

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยนายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร แถลงข่าวเปิดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไขข้อสงสัยมีคุก VIP จริงหรือไม่? เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงการควบคุมดูแลและปฏิบัติต่อผู้ต้องขังภายในเรือนจำ พร้อมนำเยี่ยมชมสถานที่จริงภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

พ.ต.อ.ณรัชต์ ยืนยันว่า ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งตามที่สังคมเข้าใจแต่อย่างใด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ยึดถือแนวทางและนโยบาย 3 ส. คือ สะอาด สุจริตและเสมอภาคอย่างเคร่งครัด

ราชทัณฑ์ เรือนจำ

พ.ต.อ.ณรัชต์ ชี้แจงใน 3 ประเด็น คือ 1.) กระแสข่าวที่มีการพบนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น เป็นการขออนุญาตไปรักษาโรคเฉพาะทางตามปกติ เนื่องจากข้อจำกัดของสถานพยาบาลในเรือนจำ โดยต้องส่งตัวผู้ป่วยตามใบนัดของแพทย์ และ กลับที่คุมขังในเวลา 16.30 น. ดำเนินการเช่นเดียวกับทุกเรือนจำ พร้อมยืนยันว่า นายสนธิ ยังถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งเหลือโทษอีกหลายปี 

2.) กรณีนักโทษคดียาเสพติด เก่ง ลายพราง ที่ถูกคุมขังในสถานบำบัดกลาง ที่มีภาพคู่กับผู้หญิงและจัดงานวันเกิดในเรือนจำนั้นไม่เป็นความจริง โดยจากที่ได้รับรายงานเพียงแต่ญาติสั่งซื้อเค้ก ซึ่งจำหน่ายในเรือนจำให้กับผู้ต้องขังและผู้คุมก็ถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐานให้กับญาติ จึงถูกเผยแพร่ออกไป

นอกจากนี้สถานบำบัดกลางมีโครงการเปิดให้ญาติผู้ต้องขังเยี่ยมผ่าน Application LINE โดยให้สื่อสารกันตัวต่อตัวกับญาติเท่านั้น ขณะที่มีผู้คุมอยู่กับนักโทษเพื่อควบคุมด้วย ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับญาติที่อยู่ห่างไกล รวมถึงเป็นผลดีด้านอาชญวิทยา และมีมาตรการควบคุมโดยการลงทะเบียน ดูสภาพแวดล้อมปลายทางและหากผิดเงื่อนไขก็จะมีโทษทางวินัยเริ่มจากการตัดสิทธิให้ญาติเยี่ยม  

3.) กรณีนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรฯ อีกราย ระบุถึงแดนสวรรค์ในคุกหรือห้อง VIP ห้อง 11 แดน 1 นั้นไม่เป็นความจริง และเรือนจำไม่อนุญาตให้นักโทษคนใดจัดงานวันเกิด เพราะจะทำให้มีอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่น อย่างไรก็ตามอนุญาตให้มีบุคคลภายนอกที่ต้องการบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภครวมทั้งอาหารให้ทางเรือนจำ และอาจมีนักโทษบางคนแอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนสั่งเข้ามาเพื่อแสดงความมีอิทธิพลซึ่งเป็นสังคมภายในคุก แต่ก็จะถือเป็นความผิดเช่นกัน

ราชทัณฑ์ เรือนจำ

อย่างไรก็ตาม ทางเรือนจำจะไม่เอาผิดกับนายสุริยะใส เพราะบางส่วนที่นายสุริยะใส สะท้อนก็เป็นสอดคล้องกับข้อเท็จจริง อย่างความแออัด หรือ คนล้นคุก และการสวมตรวน ซึ่งมาตรฐานหลายอย่างต่างจากเรือนจำในต่างประเทศ อีกทั้งมีนักโทษจำนวนมาก ผู้คุมไม่เพียงพอ มีการบังคับใช้กฎหมายอาญามากเกินไป แต่เมื่อระบบกฎหมายเป็นเช่นนี้ กรมราชทัณฑ์ก็ต้องรองรับตามบทบาทหน้าที่