นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการอุทธรณ์คดีของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นจำเลยในคดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร ในส่วนเช็ค 10 ล้านบาท ว่า คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษายกฟ้อง เมื่อคัดถ่ายคำพิพากษามาแล้ว ทางอัยการคดีพิเศษซึ่งเป็นผู้ดำเนินคดีก็ตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีนี้ คณะทำงานของสำนักงานอัยการคดีพิเศษเห็นว่า คำพิพากษาของศาลชอบแล้วที่ยกฟ้อง เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาล จึงเสนอเห็นควรไม่อุทธรณ์ไปที่สำนักงานอัยการคดีศาลสูง สำนักงานคดีศาลสูงมีนายมนต์ชัย บ่อทรัพย์ เป็นอธิบดีอัยการ ก็ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 คน ร่วมกันพิจารณาสำนวน
“ทั้ง 5 คน เห็นเป็นเอกฉันท์ เห็นพ้องต้องกันว่า คำพิพากษาของศาลที่ยกฟ้องพานทองแท้ว่าไม่ได้กระทำผิด ชอบแล้ว พูดง่ายๆ คือทั้งอัยการคดีพิเศษและอัยการคดีศาลสูงเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตฯ ที่ยกฟ้อง ก็เลยเสนอสำนวนไปที่ดีเอสไอ ต่อไปก็อยู่ที่ขั้นตอนของดีเอสไอ ส่วนรายละเอียดทำไมเห็นด้วย อะไรอย่างไร คดียังไม่ถึงที่สุด ยังไม่สามารถที่จะลงไปในรายละเอียดได้ แต่หลักใหญ่ที่ตอบได้คือ คณะของอัยการเห็นด้วยกับการตัดสินของศาล” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว
อย่างไรก็ดีขั้นตอนต่อไป อยู่ระหว่างที่ดีเอสไอจะพิจารณาเห็นแย้งหรือเห็นด้วย ถ้าดีเอสไอเห็นด้วยกับอธิบดีอัยการศาลสูงก็จบ ไม่ต้องไปอัยการสูงสุด จะไปอัยการสูงสุดต่อเมื่อดีเอสไอเห็นแย้งอัยการเท่านั้น