นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เดินทางมาพบ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อขอทราบผลความคืบหน้าในการดำเนินคดี น.ส.ปารีณา และนายทวี ไกรคุปต์ กรณีบุกรุก ครอบครองที่ดินของรัฐ (ป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่ย้ำภาชี) ทั้งในอำเภอสวนผึ้งและอำเภอจอมบึง ซึ่งได้แจ้งความกล่าวโทษไว้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 2562 แต่คดีถูกดองไว้ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2562
และล่าสุดตนได้ทราบข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า บก.ปทส. ตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีของ น.ส.ปารีณา ที่อำเภอจอมบึงอย่างเดียว แต่ไม่ตั้งคณะพนักงานสอบสวนของนายทวีที่อำเภอสวนผึ้ง ตรงกันข้ามกลับส่งเรื่องกลับไปที่อำเภอสวนผึ้งแทน ทั้งที่ตอนแรกรับเรื่องไว้ทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวมองว่าคดีนี้ล่าช้าไป ถ้าเปรียบเทียบกับคดีของประชาชนทั่วไป หากโดนคดีแบบนี้ไม่กี่วันเรื่องก็ถึงศาล แต่ที่เจ้าหน้าที่ยังยึกยักคงเพราะพยายามจะหาทางออกว่า น.ส.ปารีณาตั้งใจหรือไม่ แต่เรื่องนี้มันปฏิเสธไม่ได้ เพราะ น.ส.ปารีณายืนยันว่าเธอครอบครองมาก่อนเป็น สกป. แล้วอ้างว่าครอบครองแบบ ภ.บ.ท. 5 แต่ความจริงมันเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะครอบครองแบบ ภ.บ.ท. ไม่ได้
ส่วนกรณีไลน์พรรคพลังประชารัฐหลุด ตนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะมันอาจจะเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นก็ได้ ให้ความสำคัญกับประเด็นว่า น.ส.ปารีณาจะติดคุกหรือไม่เหมือนกับที่ประชาชนทั่วไปเคยติดคุกจากกรณีเหล่านี้ อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินคดีอาญา
หลังเข้าพบนายวีระ พร้อม พล.ต.ต.วิวัฒน์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนรับเรื่องของ น.ส.ปารีณา ไว้ประมาณ 10 คน ส่วนเรื่องความล่าช้า ตนทำไปตามระเบียบเร่งรัดที่สุดเท่าที่ทำได้ คดีไหนที่จำเป็นต้องพยานหลักฐานเพิ่มรัดกุมมากก็ต้องหาพยานหลักฐานมาก และระยะเวลาของการดำเนินการของแต่ละคดีจะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่รวบรวม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วคดีนี้พยานหลักฐานมากกว่าคดีของประชาชนทั่วไป เช่น คดีที่ม่อนแจ่มหรือไม่ ทำให้การดำนินการล่าช้ากว่ามาก พล.ต.ต.วิวัฒน์ ถามผู้สื่อข่าวกลับว่าคุณคิดว่าเยอะกว่าหรือไม่ ผู้สื่อถามจึงถามกลับว่าในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่เห็นว่าพยานหลักฐานเยอะกว่าหรือไม่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ตอบว่าคดีนี้ก็คงมีซับซ้อนบ้าง เท่านั้นแหละ ช่วยๆ กันประเทศชาติ
หลังจากนั้น นายวีระ ไปสอบถามรายละเอียดความคืบหน้าของคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาค 5 นำคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา สอบสวนพยานไปได้แล้วร้อยละ 70 แต่โดยภาพรวม ตนเชื่อว่าอีกไม่นานคงจะเป็นไปตามกฎหมายว่าใครกระทำผิดก็ต้องได้รับโทษ
ส่วนความซับซ้อนคือ ความพยายามจากอำนาจรัฐที่จะเข้ามายุ่งเหยิง ส่วนคดีนายทวี คือดองเอาไว้ตั้งแต่ 6 ธ.ค. แล้วค่อยส่งกลับไปสวนผึ้ง และของน.ส.ปารีณา ก็เพิ่งเริ่มตั้งคณะทำงาน ตนมองว่าเป็นลูกเล่นของคนที่พยามเข้ามาทำให้คดีล่าช้า ส่วนการตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดี น.ส.ปารีณาเพียงชุดเดียวตนเชื่อว่าไม่ใช่การตัดสินใจของ ปทส. แต่ต้องมีคนที่อยู่เหนือขึ้นไปตัดสินใจ พร้อมทั้งยังย้ำว่า ถ้าทั้งสองคดีถ้าไม่เป็นไปตามกฎหมายที่ควรจะเป็น จะตามตรวจสอบและเอาคนที่เข้ามาช่วยเหลือมาลงโทษ ส่วนคดีของนายทวี ตนก็จะไปตามความคืบหน้าที่ สภ.สวนผึ้งเร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง