ปรากฏการณ์ผู้ร่วมชุมนุมกว่า 2,000 คน ปักหลักอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นฐานที่มั่นในการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ผู้คนหลายช่วงอายุวัยได้ร่วมกันมุ่งหน้าสู่เวทีปราศรัย แม้ในช่วงเริ่มต้นมีการปะทะคารมระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บ้าง
ส่วนความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ อย่างทวิตเตอร์ แฮชแท็ก 'เยาวชนปลดแอก' ล่าสุดเวลา 18.50 น. มีผู้ร่วมทวิตข้อความไปแล้ว 2 ล้านทวิต ครองอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ไทย โดยมีการรายงานสถานการณ์ พร้อมให้กำลังใจผู้ร่วมชุมนุม รวมถึงแกนนำที่กำลังปราศรัย
ไม่ว่าจะเป็น นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน , นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ประธานกลุ่มเยาวชนปลดแอก , น.ส. จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) รวมถึง นายภาณุพงษ์ จาดนอก และ นายณัฐชนน พยัฆพันธ์ เยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้น
สำหรับจุดยืน 3 ประการ ของเยาวชนปลดแอก ที่เรียกร้องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีดังนี้
1. “ต้องประกาศยุบสภา” รัฐบาลสืบทอดอำนาจภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและออกมาตรการ Lockdown ส่งผลให้มีคนตกงานและขาดรายได้เป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลก็มิได้เยียวยาอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง มิหนำซ้ำยังปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจโดยที่ไม่แยแสแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ปล่อยปละละเลยให้แขก VIP ที่มีเชื้อไวรัสเข้ามาในประเทศโดยที่ไม่ได้กักตัวซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อโอกาสที่จะมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่รอบ 2
2. “หยุดคุกคามประชาชน” ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 เราต่างก็หวังกันว่าประเทศไทยจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะมีเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมโดยที่ไม่ถูกคุกคามและยัดข้อกล่าวหาหรือคดีความ แต่ความเป็นจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่การคุกคาม ทั้งทางกายภาพและทางจิตวิทยายังคงดำเนินต่อไป แทบไม่ต่างจากเมื่อสมัยที่คสช.ยังมีอำนาจอยู่ เพื่อนพี่น้องของเราถูกยัดคดี มีการอ้างความมั่นคงเพื่อปิดปากประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรม ดังนั้นเราจึงขอเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชน ทั้งทางกายภาพ ทางจิตวิทยาตลอดจนการยัดข้อหาเพื่อดำเนินคดีรวมไปถึงให้รัฐสภายกเลิกกฎหมายที่ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย
3. “ร่างรัฐธรรมนูญใหม่” เรามีรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการ โดยแรกเริ่มเดิมทีก็มีที่มาที่ไม่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว เพราะคณะผู้ร่างไม่ได้มีความยึดโยงกับประชาชน ผู้ที่รณรงค์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติก็ถูกคุกคามและยัดข้อหากันไปหลายคน เนื้อหาของรัฐธรรมนูญก็เป็นไปเพื่อรักษาระบอบเผด็จการในคราบประชาธิปไตย
เวลา 21.40 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงหนึ่งระหว่างการปราศรัย เกิดเหตุชุลมุนที่บริเวณกลางพื้นที่การชุมนุม เนื่องจากมีบุคคลที่สาม พยายามเข้ามา สร้างสถานการณ์ เพื่อรบกวนเจ้าหน้าที่ถ่ายทอดสดของเวที เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย โดยผู้ชุมนุมได้กรูเข้าไป เพื่อพยายาม จับกุมตัว บุคคลที่ 3 จนมีการปะทะกันเกิดขึ้น แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีผู้รับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด และได้พยายามเข้ามา เอาเรื่องจนทำให้เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการถ่ายทอดสด และนักศึกษาที่อยู่ภายใน เต็นท์ของเวทีได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามหลังใช้เวลากว่า 15 นาที จึงควบคุมสถานการณ์ และควบคุมผู้ชมนมที่ไม่พอใจต่อบุคคลที่สาม ซึ่งแฝงตัวเข้ามาสร้างสถานการณ์เอาไว้ได้
เวลา 23:05 น. ผู้จัดกิจกรรมประกาศยุติการชุมนุมในเวลา เพื่อความปลอดภัย พร้อมย้ำข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ต้องการคำตอบจากรัฐบาลภายใน 2 สัปดาห์ หากรัฐบาลไม่ตอบสนอง จะรวมตัวอีกครั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
อ่านเพิ่มเติม