ต่างประเทศ
เผด็จการเมียนมาจำคุกนักข่าวญี่ปุ่น เหตุถ่ายทำสารคดีประท้วงต้านรัฐประหาร
กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นระบุว่า โทรุ คุโบตะ ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ในเมียนมา จากความผิดฐานโทษยุยงปลุกปั่นเป็นเวลา 3 ปี และการละเมิดกฎหมายโทรคมนาคมอีก 7 ปี ทั้งนี้ คุโบตะยังเหลือการพิจารณาคดีอีก 1 ข้อหาเกี่ยวกับการเดินทางเข้าเมืองในวันที่ 12 ต.ค. อีกด้วย
คุโบตะถูกจับกุมโดยตำรวจนอกเครื่องแบบ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ในขณะที่เขากำลังถ่ายทำการประท้วงขนาดย่อมในนครย่างกุ้ง
“เขาถูกจับในเขตที่มีการใช้กฎอัยการศึก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำใมศาลทหารจึงเป็นผู้ตัดสินข้อหาทั้งสองของเขา” แหล่งข่าวบอกกับสำนักข่าวดีพีเอ
สำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า สารคดีของคูโบตะในอดีตที่ผ่านมา มักเกี่ยวข้องกับประเด็นผู้อพยพและปัญหาทางเชื้อชาติในเมียนมา โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในรัฐยะไข่
ตั้งแต่มีการรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2564 ซึ่งทำให้ อองซาน ซูจี และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกยึดอำนาจไป เมียนมาได้กลับเข้าสู่ช่วงแห่งความวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งคณะรัฐประหารได้ใช้วิธีจับกุมนักข่าว ข้าราชการ นักศึกษา และนักการเมืองเพื่อควบคุมกระแสต่อต้าน
จากรายงานระบุว่า เผด็จการเมียนมาได้สั่งปิดสำนักข่าว 12 แห่ง และจับกุมนักข่าว 142 คน ซึ่งปัจจุบันนี้ยังมี 57 คนที่ถูกจำคุกอยู่
นอกจากนี้ สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังที่ปฏิบัติการจากประเทศไทยยังรายงานว่า ตั้งแต่มีการรัฐประหารในเมียนมา มีพลเรือนกว่า 2,300 คนที่เสียชีวิต และอีก 15,700 คนที่ถูกจับกุมตัวอีกด้วย
คุโบตะเป็นนักข่าวต่างชาติคนที่ 5 ที่ถูกคุมขังในเมียนมา หลังจาก นาธาน เมือง และ แดนนี่ ฟอสเตอร์ ชาวสหรัฐฯ โรเบิร์ต โบซิอากา จากโปแลนด์ และ ยูกิ คิตะซึมิ จากญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม นักข่าวทั้ง 4 คนนี้ ถูกปล่อยตัวและส่งกลับประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเมียนมามาตลอด โดยญี่ปุ่นได้ส่งเงินช่วยเหลือให้แก่เมียนมา ในขณะที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรเมียนมา เนื่องจากปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และในช่วงที่มีการรัฐประหารในปีที่แล้ว ญี่ปุ่นทำเพียงการหยุดส่งเงินช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้มีการคว่ำบาตรเป็นรายบุคคลแต่อย่างใด
ในเดือน พ.ค. เมื่อคิตะซึมิ นักช่าวญี่ปุ่นที่ถูกเมียนมาจับกุมได้รับการปล่อยตัว เผด็จการทหารเมียนมากล่าวว่าคำสั่งดังกล่าว “เป็นผลจากการพิจารณาความสัมพันธ์อันดีระหว่างเมียนมาและญี่ปุ่น”
“มันถึงเวลาแล้วที่ญี่ปุ่นจะต้องหยุดเล่นเกม และสนับสนุนการคว่ำบาตระหว่างประเทศอย่างจริงจังเพื่อจำกัดทรัพยากรของเผด็จการเมียนมา” ฟิล โรเบิร์ตสัน จากองค์กรฮิวแมนไรท์วอชกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
ที่มา:
