น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่(อนค.) เปิดเผยเหตุผล ที่พรรคอนาคตใหม่ตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี “น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส.เขต 3 จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โดยระบุผ่านเฟซบุ๊ก Pannika Chor Wanich ดังนี้
นับตั้งแต่เปิดสภา ตามมาด้วยกระแสข่าวมากมายเกี่ยวกับบทบาทของอนาคตใหม่ในสภา ช่อไปไหนมีแต่คนถามว่า พรรคจะจัดการกรณีคุณปารีณาอย่างไร จะฟ้องไหม เรานิ่งมาตลอด ใช้เพียงการชี้แจงด้วยข้อเท็จจริงและการทำงานหนักต่อเนื่อง เพราะพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่างานและเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเรามากกว่าการตอบโต้ชี้แจงรายวัน
อย่างไรก็ตาม ข้อความที่คุณปารีณาโพสต์ล่าสุด ซึ่งพาดพิงคุณธนาธร ช่อ และพรรคอนาคตใหม่ ว่าเป็นผู้ยุยงให้เกิดเหตุรุนแรงล่าสุดในกรุงเทพฯ และเชื่อมโยงพรรคเข้ากับการก่อเหตุในจังหวัดชายแดนใต้ ถือว่าล้ำเส้น ด้วยเหตุว่า ไม่เพียงนี่เป็นข้อความเท็จ 100% แต่ยังเป็นการกล่าวหาด้วยความผิดรุนแรงมาก และที่สำคัญที่สุด ไปพาดพิงถึงบุคคลที่สาม ซึ่งอยู่ในรูปที่คุณปารีณานำไปเชื่อมโยงพรรคอนาคตใหม่เข้ากับเหตุระเบิด ทำให้สังคมเข้าใจว่าบุคคลที่อยู่ในรูปถ่ายกับคุณธนาธรและช่อ เป็นคนเดียวกับผู้ต้องสงสัยวางระเบิด
เราตัดสินใจว่าเราไม่สามารถปล่อยให้บุคคลใดทำผิดซ้ำซาก ปล่อยข่าวเท็จ ปล่อยภาพตัดต่อที่สร้างความเสื่อมเสียให้บุคคลอื่น สร้างความแตกแยกเกลียดชังในสังคมได้อีกต่อไป จึงจะดำเนินคดีคุณปารีณา และหวังว่าเธอจะหยุดพฤติกรรมนี้ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติ ประชาชนอย่างมหาศาล ยังเป็นผลเสียต่อตัวเธอเอง รวมถึงพรรคของเธอด้วย
ช่อได้ติดต่อพูดคุยกับบุคคลที่ได้รับความเสียหายแล้ว และได้ขอโทษที่เขาต้องมาเดือดร้อน ถูกเข้าใจผิดจากสังคมด้วยกระบวนการที่จ้องทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคอนาคตใหม่ แต่เขาในฐานะคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนคนหนึ่ง ยังคงยืนยันว่าเข้าใจสถานการณ์ดี และพร้อมจะต่อสู้ดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข่าวเท็จเหล่านี้อย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้สังคมต้องเผชิญการบั่นทอนสร้างความแตกแยกเกลียดชังมากไปกว่านี้
หลายท่านถามมาว่าทำไมครั้งนี้พรรคอนาคตใหม่เลือกจะแจ้งความดำเนินคดีคนอื่นโดยใช้ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนยันมาตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้
ช่อขอชี้แจงว่านี่เป็นข้อเสนอจากทีมกฎหมายของพรรค ซึ่งให้ความเห็นว่ากรณีล่าสุดนี้ เข้าข่ายตรงตามมาตรา 16 ของพ.ร.บ. คอมฯ มากที่สุด ซึ่งมาตรานี้ไม่เหมือนมาตรา 14 ที่มีปัญหามาก ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองบ่อยครั้งจากปัญหาการตีความว่าข่าวเท็จใด “กระทบต่อความมั่นคง” และ “อาจสร้างความตื่นตระหนกในสาธารณชน” ขณะที่มาตรา 16 เป็นเรื่องการตัดต่อภาพเพื่อใส่ร้ายให้เสียหาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แพร่หลาย สร้างความเสียหายแตกแยกและเกลียดชังอย่างมากในสังคม เราจึงเห็นควรดำเนินคดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพรรคจะพิจารณาข้อเสนอจากฝ่ายกฎหมายแล้วตัดสินใจอีกครั้งว่าจะฟ้องฐานใดบ้าง
ปารีณาเตรียมฟ้องกลับ
น.ส.ปารีณา ได้ตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ จะไปแจ้งความ น.ส.พรรณิการ์ ที่กล่าวหาว่าตนเองกล่าวข้อความเท็จและสร้างความเกลียดชัง พร้อมกับบอกด้วยว่า พรรคอนาคตใหม่ อย่า 'กินปูนร้อนท้อง'
เนื้อหาทั้งหมดระบุดังนี้
"พรุ่งนี้ กลับเมืองไทย
สิ่งแรกที่จะทำคือไปแจ้งความ ช่อ พรรณิกา ที่กล่าวหาดิฉัน (และพูดชื่อนามสกุลดิฉันอย่างชัดเจน) ว่า ดิฉันไปใส่ร้าย กล่าวหาข้อความเท็ต สร้างความเกลียดชัง บลาๆๆ ช่อ พูดให้ร้ายดิฉันมากมายเหลือเกิน ต้องแจ้งความกันแล้วแหละ
ส่วนอะไรที่ช่อ และพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ทำ อย่าไป กินปูนร้อนท้อง เพราะไม่ได้เอ่ยชื่อใครเลย ที่ผ่านมามีการเอ่ยชื่อท่านทักษิณคนเดียว และแลดูท่านไม่เดือดร้อน ยังนิ่งๆ แล้วพรรคอนาคตใหม่จะเดือดร้อนทำไม หรือว่า... สังคมจะเป็นคนตัดสินว่าดิฉันพูดถึงใครอยู่ และอย่ามาพูดเรื่องคุกตารางกับดิฉันเพราะคนที่ใกล้คุกใกล้ตารางคือ... พวก.... ชังชาตืต่างหากคะ
#คิดว่าปารีณาควรแจ้งความช่อช่วยกดไลค์เยอะๆด้วยคะ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :