สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจจีนของนักเศรษฐศาสตร์ว่า ในปี 2562 มีความเป็นไปได้สูงที่จีนจะเผชิญหน้ากับสภาวะเงินฝืด เนื่องจากราคาผู้ผลิต (producer price) หรือ ราคาสินค้าที่จำหน่ายออกจากโรงงานหรือจากแหล่งผลิตโดยไม่รวมค่าขนส่งและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีแนวโน้มลดต่ำลงในครึ่งหลังของปี
ตัวเลขเฉลี่ยจากนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 15 คน ในการสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ประเมินว่าราคาสินค้าจากโรงงานจะเพิ่มสูงขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 เท่านั้นในปี 2562 ซึ่งต่ำลงกว่าการคาดการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่อยู่ที่ร้อยละ 0.8 หลายฝ่ายมองว่าการชะลอตัวของการขึ้นราคาสินค้าจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่จะถึง และจะยาวไปจนถึงต้นปี 2563
ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของกำไรจากราคาผู้ผลิตในอีก 2 ปีข้างหน้า ก็มีการปรับลดกว่าครึ่งลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ในปี 2563 และร้อยละ 1.3 ในปี 2564 เป็นผลมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและการลดลงของกำไรในภาคอุตสาหกรรม
ความเสี่ยงการเผชิญหน้ากับภาวะเงินฝืดที่กลับมาในครั้งนี้ของจีนเพิ่มความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอย่างหนัก ในมิติภายในประเทศจีน สถานการณ์การได้กำไรน้อยจากราคาสร้างความกดดันให้กับการจ่ายหนี้ของบริษัทต่างๆ เนื่องจากมีกำไรที่ลดลง และส่งผลต่อความอ่อนแอของรายรับประจำปีเช่นเดียวกัน
ในช่วงปี 2555 – 2559 ที่อัตราการเติบโตของราคาโรงงานจะลดลง ธนาคารประชาชนจีน ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศเลือกที่จะออกนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อเป็นมาตรการช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าธนาคารกลางของจีนอาจจะไม่ได้ใช้มาตรการเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาครั้งนี้
