ตลอดหลายปีที่ผ่านมานักเดินทางและนักท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นสามารถใช้บัตรของ JR Pass ในการเดินทางทั่วประเทศไม่จำกัดหลายรอบได้อย่างปกติโดยสามารถจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวและสามารถใช้ได้หลายครั้งในจำนวนวันตามบัตรที่กำหนด อย่างไรก็ตามปลายปี 2566 กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้น
บริษัท JR Group ผู้ให้บริการดำเนินการรถไฟที่มีความตรงต่อเวลามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกไปจนถึงรถไฟความเร็วสูงหัวกระสุนชินคันเซนได้ออกมาเปิดเผยว่าในเดือนตุลาคม 2566 นี้จะมีการปรับขึ้นราคาครั้งใหญ่ โดยยังไม่มีการระบุว่าจะเริ่มวันที่เท่าไหร่
โดยปกติแล้วบัตรที่นั่งหนึ่งใบสำหรับผู้ใหญ่ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานใช้ซ้ำได้ภายในระยะเวลา 7 วันจะเพิ่มราคาราว 68.6% หรือจาก 20,350 เยนเป็น 50,000 เยน (5,211.83 บาท เป็น 12,805.47 บาท) ขณะที่บัตรสำหรับ 14 วันที่สามารถใช้ JR ได้ทุกเส้นทางจะปรับขึ้น 69% คือจาก 47,250 เยนเป็น 70,000 เยน (12,101.17 บาทเป็น 17,927.66 บาท)
The Straits Times ระบุเพิ่มเติมด้วยว่าการประกาศขึ้นราคาจาก JR Group มีผลเฉพาะกับบัตรเดินทางรถไฟของบริษัท JR สำหรับการเดินทางทั่วประเทศเท่านั้น ไม่มีผลกับราคาค่าบัตรรถไฟที่เดินทางเฉพาะภายในพื้นที่ภูมิภาคเดียวกัน การเดินทางภายในภูมิภาคจะยังคงราคาเดิมอยู่
เสียงตอบรับจากผู้คนทั่วโลกมีออกมาอย่างหลากหลายหลายคนรู้สึกถึงความตกใจในช่วงแรกขณะที่หลายคนมีความเข้าใจต่อการปรับขึ้นราคาของการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น หนึ่งในคอมเม้นต์ของ Reddit ระบุว่าเขารู้สึกว่า “ญี่ปุ่นไม่ต้องการนักท่องเที่ยวอีกต่อไปแล้ว”
ขณะที่หลายคนก็บอกว่าการปรับขึ้นราคาจากกระทบในการเดินทางจากเมืองใหญ่เช่นจากกรุงโตเกียวไปยังโอซากาเท่านั้น เพราะบัตรรถไฟที่อยู่ภายในภูมิภาคเดียวกันจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ ซึ่งอาจส่งผลดีทำให้มีผู้คนเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองต่างๆ ที่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น