นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาพิจารณาร่างพ.ร.บงบประมาณฯ พ.ศ.2564 ว่า รัฐบาลมีความสามารถในการกู้เงินเป็นที่ประจักษ์ แต่ความสามารถในการใช้หนี้ตนสงสารประชาชน เชื่อว่าจากนี้เตรียมการรับมือกับเรื่องภาษีที่จะต้องโดนขูดรีดอย่างแน่นอน ตนตั้งข้อกล่าวหาเลยว่า ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลบริหารล้มเหลว และกำลังจะล้มเหลวในอนาคต เพราะบริหารผิดพลาดมาทั้งหมด จัดงบประมาณก็ไม่เกิดประสิทธิผล
"วันนี้เอาโควิด-19 มาเป็นผู้ร้าย ซึ่งจริงๆ มันเริ่มล้มเหลว อ่อนแอก่อนที่โควิด-19 จะมาเสียอีก"
อย่างไรก็ตาม นายครูมานิตย์ระบุว่า งบประมาณวันนี้ปรับใหม่ได้ถ้าจะอ้างโควิด-19 ถือเป็นการบ้านชิ้นสำคัญ แต่ไม่ใช่รัฐบาลยังมาลอยหน้าลอยตาบอกว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ ทำอย่างไรจะให้คนในประเทศนี้สามารถเพิ่มรายได้ ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยทำมาจนประสบความสำเร็จแล้ว ถ้ารัฐบาลอยากรู้ว่าทำอย่างไรให้เชิญไปบรรยายพิเศษเป็นการส่วนตัวได้
“รัฐบาลได้งบมากก็เอาแต่ทำโครงการใหญ่ๆ ตาสีตาสาไม่เคยได้ประโยชน์ ท่านต้องคิดใหม่ คิดถึงผู้บริหารเก่าๆ ที่เขาเก่งๆ อย่างยุค ดร.ทักษิณ ชินวัตร คอนเซปต์สั้นๆ เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ลดรายจ่าย ทำโอท็อป กองทุนหมู่บ้านอะไรต่างๆ ของดีๆ ทั้งนั้น ไม่เป็นไรเลยครับ ใครๆ ก็รับได้ ถ้าท่านจะลอกการบ้านมา เพื่อความผาสุขให้กับประชาชน”
นายครูมานิตย์ กล่าวอีกว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ยกตัวอย่างสิงคโปร์ยุบสภา แต่ตนมาจากการเลือกตั้ง กว่าจะเข้ามาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นายสมคิดไม่เคยเลือกตั้ง แล้วไปยุนายกฯ ได้อย่างไร นายกฯ อย่าไปตามนายสมคิด ถ้านายสมคิดจะไปก่อนก็ให้แกไป เราทำงานได้ยังไม่ถึง 2 ปีจะมายุบสภาฯ กันแล้ว นายสมคิดจะน้อยใจอะไรก็เรื่องของนายสมคิด แต่มายุให้ยุบสภาฯ นั้นอย่า เราจะตกงานกันหมด แม้แต่ประธานในที่ประชุมขณะนี้ก็ตกด้วย
“ท่านอย่าไปฟังคนยุคนแหย่ว่าสุดยอดๆ พวกนั้นเขาอวยท่าน อยากให้ไปฟังปัญหาชาวบ้านจริงๆ อย่าเชื่อที่เขามารายงาน เพราะแม้แต่ท่านร้องเพลงเขาก็ยังบอกว่าเพราะมาก พวกนี้เขาอวยท่านหมด อย่างไรก็ตาม อยากฝากนายกฯ ให้คิดถึงประชาชนมากๆ แก้ปัญหาความยากจน ปากท้องของคนจำนวนมากก่อน 20 รายที่นายกฯ เขียนจดหมายไปหานั้น เขาอยู่สบายกันหมดแล้ว” นายครูมานิตย์ กล่าว