ไม่พบผลการค้นหา
'เพชรยินดี' ยอมรับแบกภาระหลายทางหลังต้องปิดค่าย ย้ำผู้เสี่ยงคือแฟนมวยมากกว่านักมวย

ภายหลังจากการมีประเด็นประชาชนติดเชื้อโควิด-19 จากสนามมวยลุมพินี โดยเริ่มจาก การออกมาประกาศของ 'แมทธิว ดีน' นักแสดงที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกร ณ สนามมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกหลายรายจากงานนี้

ทีมข่าว 'วอยซ์ออนไลน์' ติดต่อพูดคุยกับ 'ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์' โปรโมเตอร์และเจ้าของค่ายมวยเพชรยินดีอะคาเดมี่ เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ของค่ายมวยและนักมวย พบว่า ตอนนี้ฝั่งผู้บริหารตัดสินใจปิดค่ายมวยทั้งหมดแล้ว รวมถึงสั่งให้นักมวยกักตัวเองอยู่ในที่พักเป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งนักมวยบางคนก็เลือกที่จะเดินทางกลับไปกักตัวยังบ้านเกิด หรือกักตัวอยู่ที่หอพักในค่าย โดยได้ให้เงินติดตัวไปแล้วจำนวนหนึ่ง

มวยไทยเที่ยวไทย
  • 'ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์' โปรโมเตอร์และเจ้าของค่ายมวยเพชรยินดีอะคาเดมี่

อย่างไรก็ตาม 'ณัฐเดช' ชี้แจงว่า งานต่อยมวยเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนไม่ได้ส่งนักมวยในค่ายเข้าร่วม จึงไม่มีนักมวยคนใดน่าจะตกอยู่ในภาวะเสี่ยงติดเชื้อในงานนั้น และมองว่า นักมวยมีความแข็งแรงค่อนข้างมาก หากจะกังวล มองว่า ผู้เข้าชมหรือเซียนมวยอาจจะตกอยู่ในภาวะเสี่ยงกว่า


"ตอนนี้นักมวยไม่น่าห่วง แต่เป็นห่วงกลุ่มแฟนมวยมากกว่า" ณัฐเดช กล่าว


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวนผู้ชมงานในวันนั้นมีค่อนข้างสูง ประมาณ 2,000 - 3,000 คน เนื่องจากเป็นงานใหญ่ ที่มีของรางวัลเป็นทั้งเงินมูลค่าสูงรวมถึงรถยนต์

ภาระแบกได้เอาสุขภาพก่อน

'ณัฐเดช' ยอมรับว่า การปิดค่ายเช่นนี้ ทำให้ต้องแบกต้นทุนค่อนข้างมาก เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ก็มาจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาฝึกในค่ายซึ่งปัจจุบันต้องปฏิเสธไปทั้งหมดแล้ว รวมถึงเงินเดือนของนักมวยและเทรนเนอร์ ซึ่งปกติจะมีรายได้จากการขึ้นชกมวย 

สัมภาษณ์เจ้าของค่ายมวยเพชรยินดี

ทั้งนี้ ค่ายเพชรยินดี จะดำเนินมาตรการปิดค่ายไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม ก่อนทีมผู้บริหารจะร่วมหารือถึงมาตรการในระยะต่อไป แต่ย้ำว่า "จะเอาสุขภาพและความปลอดภัยของทุกคนเป็นที่ตั้ง"

ในฐานะผู้ประกอบการที่อยู่ในวงการมวยมานาน 'ณัฐเดช' ยอมรับว่า ผลกระทบในครั้งนี้โดนเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน และก็ยังประเมินสถานการณ์ไม่ได้ว่านักมวยจะได้ขึ้นชกอีกทีเมื่อไหร่ แต่สุดท้ายก็ต้องอดทนและดูแลคนในค่ายให้ดีที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;