แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับครอบครัว วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ จัดกิจกรรม ฉลองวันเกิดครบรอบ 38 ปี นักกิจกรรมชาวไทยที่ถูกอุ้มหายในประเทศกัมพูชา ซึ่งตรงกับวันที่ 11 ส.ค. 2563 โดยมีการเป่าเค้กวันเกิด ก่อนแจกจ่ายเค้กและคุกกี้ให้กับเจ้าหน้าที่สถานทูต เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สื่อข่าวและประชาชนที่ผ่านมาบริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชา เพื่อให้ช่วยกันเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับวันเฉลิมและครอบครัว 

นอกจากนี้ ผู้แทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมครอบครัวนายวันเฉลิม พยายามขอเข้าพบ อูก ซอร์พวน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย หรือผู้แทน เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของวันเฉลิม ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา และยังไม่ทราบชะตากรรม โดยมีการนำรายชื่อประชาชนกว่า 5,000 รายชื่อ ที่รวบรวมมา ตามโครงการรณรงค์ "ปฏิบัติการด่วน" เพื่อเรียกร้องให้มีการสืบสวนเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภพ เร่งด่วน รอบด้าน และโปร่งใสและคืบความยุติธรรมให้กับครอบครัวของผู้ที่สูญหาย มามอบให้สถานทูตกัมพูชาด้วย แต่ยังไม่มีการตอบรับจากเจ้าหน้าที่สถานทูต จึงไม่ได้ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อดังกล่าวในครั้งนี้

เตรียมติดตามหาตัวน้องชายเองที่กัมพูชา หลังสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลาย

สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาววันเฉลิม กล่าวว่า ทั้งทางการไทยและกัมพูชาไม่มีการอัพเดทข้อมูล หรือชี้แจงความคืบหน้าต่อทางญาติเลย โดยเฉพาะทางการไทยที่ไม่มีความกระตือรือร้น ต้องให้ทางญาติตามเรื่องเองทุกอย่าง ขณะที่ครอบครัวได้พลัดพรากจากนายวันเฉลิมตั้งแต่ลี้ภัย ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัว ได้ร่วมอวยพรและฉลองวันเกิดผ่านแอปพลิเคชันไลน์ยกเว้นปีนี้ ที่ไม่ได้เจอหน้ากันและทางครอบครัวยังหวังว่าวันเฉลิม จะปลอดภัยหรือยังมีชีวิตอยู่

โดยตั้งใจว่าหลังจากประเทศไทยยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและทางการกัมพูชาเปิดประเทศ จะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่ประเทศกัมพูชาด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม วันที่ 17 ส.ค.นี้ สิตานัน มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปที่ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา หลังจากได้ส่งทนายความยื่นฟ้องคดีไว้ที่นั่น จึงได้เตรียมเอกสารกระทรวงต่างประเทศของไทยว่าจะอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย กล่าวว่า น่าเสียดายที่ไม่มีตัวแทนสถานทูตมารับหนังสือ ซึ่งจาก 2 เดือนที่ผ่านมารวบรวมรายชื่อประชาชนได้ 5,000 รายชื่อ ซึ่งทาง แอมเนสตี้ฯ ยืนยันจะรณรงค์ "ปฏิบัติการด่วน" นี้ต่อไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 พร้อมย้ำว่าวันเฉลิม และอีกหลายคนไม่ควรต้องลี้ภัยทางการเมือง เพียงเพราะใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตตั้งแต่ต้น พร้อมย้ำข้อเรียกร้องตามโครงการรณรงค์ของแอมเนสตี้ฯ คือ 

 1.) เรียกร้องให้ทางการกัมพูชาดำเนินการสืบสวนการหายตัวไปของวันเฉลิมและแจ้งให้ครอบครัวทราบถึงชะตากรรม     

2.) ให้นำตัวผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม โดยต้องงดเว้นโทษประหารชีวิต     

3.) เรียกร้องให้ทางการกัมพูชา ปฏิบัติตามข้อกำหนดในอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลสูญหาย ซึ่งกัมพูชาเป็นรัฐภาคี โดยเฉพาะประเด็นที่หากพบตัวนายวันเฉลิม ต้องไม่ส่งกลับประเทศไทย ที่ถือว่ามีความเสี่ยง