ภายหลังมวลชนคณะราษฎร 2563 เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินเมื่อเวลา 14.25 น. ของวันที่ 14 ต.ค. 2563 โดยขบวนของมวลชนได้เคลื่อนไปยังสะพานผ่านฟ้า เข้าสู่แยกเทวกรรมเพื่อเข้าสู่ถนนนางเลิ้งและเข้าเส้นทางถนนพิษณุโลกไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านนั้น มีมวลชนคนเสื้อเหลืองได้ร่วมชูสามนิ้วให้กำลังใจพร้อมชูสามนิ้วแสดงสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ให้กับมวลชนคณะราษฎร 2563
เวลา 16.00 น. หัวขบวนคณะราษฎรได้หยุดอยู่ที่บริเวณบริเวณสะพานเทวกรรมรังรักษ์ โดยมีรถบัสตำรวจตระเวนชายแดนจอดขวางอยู่
กระทั่งเวลา 16.30 น. โดยประมาณ กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เคลื่อนขบนมาถึงบริเวณด้านทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ ตรงข้ามสำนักงาน ก.พ. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งกำลังอยู่ที่บริเวณสี่แยกพาณิชยการ ซึ่งยังคงเปิดให้ประชาชาสัญจรผ่านไป-มาที่บริเวณถนนพิษณุโลก
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตั้งรั้วลวดหนาม บริเวณถนนพระรามที่ 5 หน้าอนุเสาวรีย์กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุนคณะราษฏรได้ใช้วิธีการแบบดาวกระจายเข้าพื้นที่ และได้มีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าหยุดตั้งแท่งแบริเออร์ และให้เอาออกจากพื้นที่ พร้อมชูป้าย ที่มีข้อความว่า "ตำรวจต้องรับใช้ประชาชน ปล่อยเพื่อนเรา และไม่เอาระบอบประยุทธ์โว้ย" จึงทำให้ไม่สามารถตั้งแท่งแบริเออร์ได้ และรถแบริเออร์ที่มาติดตั้งได้ออกนอกพื้นที่
จากนั้นตำรวจได้มีการตรึงกำลังเต็มพื้นที่จราจร ถนนพิษณุโลก บริเวณรอบนอกทำเนียบ ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐ ไม่ให้รถยนต์สัญจรผ่านไปมาได้ เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่แยกนางเลิ้งอีกส่วนเข้ามาได้ ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเรียกร้องให้ตำรวจถอดเครื่องแบบ และมาอยู่ข้างประชาชน
ขณะเดียวกัน มีประชาชนที่ขับรถสัญจรผ่านไปมา ได้บีบแตร ใส่กลุ่มผู้ประชุมนุมที่ยืนอยู่ ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ
เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณถนนพิษณุโลก ตะโกนว่า “5 โมงแล้ว หมดเวลาราชการ” ใส่กลุ่มคนเสื้อเหลืองที่มายืนเรียงแถวปิดแยกนางเลิ้งขวางกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งคาดว่าเป็นข้าราชการทำเนียบรัฐบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง