ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล และ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 27 กรุงเทพมหานคร ได้ประชุมเข้มแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.ฝั่งธนบุรี ทั้ง 10 เขต พรรคก้าวไกล พร้อมเตรียมจัดทีมอาสาเฝ้าระวังการซื้อเสียง แบบหน่วยสอดแนม อุปกรณ์ครบ แล้วยังพบอีกว่าในตอนนี้มีการเริ่มวางแผนซื้อเสียงกับอย่างเป็นรูปแบบเพื่อสู้กับกระแสตอบรับของก้าวไกลในฝั่งธนบุรีที่มาแรงทุกเขต 

ณัฐชาเปิดเผยว่า รอบนี้การซื้อเสียงมารูปแบบใหม่ แบ่ง 4 ขั้นตอน คือ 1 ซื้อใจหัวคะแนน ผ่านการนัดทานข้าว หรือไปเยี่ยมที่บ้านแล้วให้เงินบ้างส่วน 3,000-10,000 บาท 2ให้ความหวัง ปูเครื่อข่ายเพิ่มโดยการหาแนวร่วมมาเพิ่ม ได้เงินเพิ่ม ทั้งคนมาใหม่ ทั้งคนพามา 

3 หาแกนนำย่อย รับเงินจากหัวคะแนนหลัก โดยเริ่มเช็คจำนวนกันแล้ว ในตอนนี้เพื่อไม่ให้ชนกัน และ 4 จ่ายโค้งสุดท้าย ออกไปหัวละ 1,000-2,000 บาท โดยหวังจะให้ถึงมือชาวบ้าน 500 บาท เป็นหลัก แต่แกนนำที่กินหัวคิวไปต้องรับผิดชอบหน่วยคะแนนห้ามต่ำกว่าเกณฑ์ นอกจากนี้ ยังมีการแถมโบนัส หน่วยรับผิดชอบไหนทำยอดทะลุเป้า ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยคะแนนที่ยิงออกไป จะได้เบิ้ลโบนัสพิเศษเท่าตัว โดยจะนำไปแจกชาวบ้านต่อ หรือไม่แจก ก็ได้ หลังเลือกตั้ง 

ณัฐชากล่าวต่อว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กว่า 10 เขตในฝั่งธนบุรีได้รับข้อมูลข่าวสารใกล้เคียงกันจากประชาชนที่หวังดีนำข้อมูลมาแจ้งและเป็นเรื่องที่น่าตกใจที่สุดว่าบางพรรคการเมือง ปากว่าตาขยิบ ปากปราศรัยบอกเกลียดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่พอวางไมค์ลงเข้าหลังบ้านก็วางแผนแจกเงินหัวคะแนนต่อไป เรื่องเหล่านี้เราไม่ควรปล่อยผ่านและไม่ควรเก็บไว้ นับวันมีแต่บ่อนทำลายสังคม และ ทำร้ายระบบการเมืองไทยเพียงเพื่อหวังเอาชนะ

ต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาว่าขณะนี้ ขบวนการซื้อเสียงรุกหนักในเขตฝั่งธนบุรี สิ่งที่ตนและพรรคก้าวไกลทำคือการออกไปทำวามเข้าใจกับประชาชนให้มากที่สุด ว่าเงินที่เอามาแจกคิดเป็นผลผระโยชน์อันน้อยนิดเมื่อเทียบกับการถอนทุนที่จะเกิดขึ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถผลักดันนโยบายเปลี่ยนประเทศนี้ให้สำเร็จ ผลประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจะมากกว่าเงินซื้อสิทธิ์ขายเสียงเหล่านี้แน่นอน

“สุดท้าย พรรคก้าวไกลขอเชิญชวนผู้สนใจเฝ้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้ช่วยกันสอดส่องดูแลและเก็บข้อมูลที่ส่อทุจริต หรือพบเห็นการซื้อสิทธิ์ขายเสียงก็สามารถแจ้งได้ทันทีและอยากให้เชิญชวนผู้ที่รับเงิน 100 บาท มาแลกเงิน 100,000 บาท ผ่านการส่งข้อมูลให้กับ กกต. หรือส่งมายังพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ใน ‘ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และการให้รางวัลแก่ผู้ชี้เบาะแสการกระทำการอันไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง พ.ศ.2562’ ได้ปกป้องคุ้มครองพยาน ‘เป็นความลับ’ และคำนึงถึง ‘ความปลอดภัย’ ของผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร ผู้ชี้เบาะแส เจ้าหน้าที่ และบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ให้ข้อมูลข่าวสารเป็นสำคัญ” ณัฐชากล่าวทิ้งท้าย