นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ที่สุดแห่งการเลือกตั้ง กกต.จัดเลือกตั้งไม่โปร่งใสจริงหรือ" โดยระบุถึง 10ข้อที่สุด 1.ระบบป้องกันการทุจริตเลือกตั้งที่ดีที่สุดตั้งแต่การพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ขนหีบบัตร จ่ายบัตร การเก็บรักษาบัตร การลงคะแนน การนับคะแนน มีขั้นตอนที่รัดกุม ปิดโอกาสที่จะทำให้มีการทุจริตในการเลือกตั้ง ที่เป็นเช่นนี้เพราะบริบทการเมืองไทย อาจกล่าวได้ว่าระบบการเลือกตั้งของประเทศไทยมีความปลอดภัยมากที่สุดในโลกเท่าที่เปรียบเทียบกับประเทศอื่น
2 มีผู้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งมากที่สุด มีกรรมเขตทุกเขตเลือกตั้ง 350เขต มีกรรมการประจำหน่วย กปน.ทุกหน่วยเลือกตั้ง 92,300 กว่าหน่วย ยังมีลูกเสืออาสา กกต. ผู้สังเกตการณ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่รอคิวในการออกเสียงลงคะแนนและเฝ้าสังเกตการณ์การนับคะแนน เป็นจำนวนมาก
3 มีขั้นตอนในการเลือกตั้งที่สลับซ้อนที่สุดต้องพิมพ์บัตรเลือกตั้ง 350 แบบ พรรคเดียวกันในจังหวัดเดียวกันเบอร์ต่างกัน ต้องจ่ายบัตรเลือกตั้ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการ ออกเสียงลงคะแนนล่วงหน้า ให้ถูกเขตโดยในแต่หน่วยอาจต้องจ่ายบัตรให้ผู้มีสิทธิทั้ง 350 เขต 350 แบบถ้ามีการลงทะเบียนครบทุกเขตในหน่วยนั้น
4. ให้เวลาลงคะแนนมากที่สุด กล่าวคือ ให้เวลาลงคะแนนเพิ่มอีก 2 ชั่วโมง จากที่เคยปิดหีบ เวลา 15.00 น. เป็นปิดหีบ 17.00 น.คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง กปน.5 คน ต้องทำงานตั้งแต่รับบัตรและอุปกรณ์ในการลงคะแนน เปิดหน่วยลงคะแนน ปิดหีบบัตร ตรวจสอบจำนวนบัตรให้ถูกต้องตรงกันเริ่มนับคะแนน ปิดผลการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง รายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ ส่งอุปกรณ์ รวมเวลาทำงาน จากรับบัตร จนถึงส่งอุปกรณ์ จากเวลา 05.00 ถึงเวลา 23.00 น. ต้องทำงานติดต่อกันประมาณ 15-18 ชั่วโมง มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือมีจำนวนกว่า 51 ล้านคน มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
5. มีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด ทั้งในการเลือกตั้งล่วงหน้าและในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 กว่าร้อยละ 79 มากกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมานับแต่มีรัฐธรรมนูญปี 2540
6.มีผู้สมัครและพรรคการเมืองส่งผู้สมัครมากที่สุด มีพรรคส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 81 พรรคการเมือง ผู้สมัครกว่า12,000คน จากเดิมที่เคยส่งผู้สมัคร 2000-3000 คนมีพรรคการเมืองส่งแค่ 20-30 พรรคการเมือง ด้วยความสลับซับซ้อนของกฎหมาย กกต.ทำให้เกิดงานธุรการเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนเท่าทวี เช่นการพิมพ์บัตร 350 เขต 350 แบบ หนังสือถึงเจ้าบ้าน เป็นต้น
7. มีขั้นตอนการประกาศผลที่มากที่สุด หลังเลือกตั้งเสร็จ กกต.ยังไม่อาจประกาศผลได้ทันทีแม้จะประกาศผลคะแนนไปแล้วก็ตาม การประกาศผลต้องเป็นไปตามขั้นตอนตามที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดใว้
8.มีการคำนวณการจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อที่สลับซับซ้อนที่สุด
9.มีจำนวนเรื่องร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้งน้อยที่สุด ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านมาครั้งที่ผ่านมาหลังทราบผลคะแแนน จะมีเรื่องร้องคัดค้านเป็นหลักพันหรือหลายพันเรื่อง แต่ครั้งนี้มีเรื่องร้องคัดค้านแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง ทั้งที่มีการแข่งขันสูงและมีผู้สมัครและพรรคการเมืองลงสมัครเป็นจำนวนมาก
10.มีการกล่าวหา กกต.โดยไม่มีข้อเท็จจริงมากที่สุด มีการตั้งข้อสงสัย พยายามกล่าวหา กกต.ว่าจัดการเลือกตั้งไม่โปรงใส โดยมีความพยายามทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเลือกตั้ง แต่ข้อสงสัยและข้อกล่าวหาดังกล่าว กกต.ก็สามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้ทุกเรื่อง ส่วนมากการกล่าวหาก็ก็ไม่ปรากฏนามผู้กล่าวหา ว่าเป็นผู้ใด เป็นการกล่าวหาในโซเชียลมีเดีย แต่ได้นำข้อกล่าวหาตามโซเชียลมีเดียดังกล่าว มาใช้ประโยชน์ในการอื่น
ถ้ามีหลักฐานอยู่บ้างตามที่กล่าวหา กกต.คงอยู่ไม่ได้แล้ว กรณีมีหลักฐานว่าการเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก็ชอบที่จะยื่นเรื่องให้ กกต.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ จะได้ร่วมมือกันในการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แต่ไม่ใช่นำข้อสงสัยดังกล่าวมากล่าวหา กกต.เอง ทั้งที่ปราศจากมูลความจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง