วันที่ 6 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้แถลงของดออกเสียงลงมติ ในการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในมาตรา 23 ที่กำลังเป็นข้อถกเถียงในการประชุมสภาอยู่ขณะนี้ ว่าควรใช้สูตรหาร 100 หรือ สูตรหาร 500 เพราะปัญหาที่ถกเถียงในการลงมติว่าจะใช้สูตรใดหารนั้น มีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ หากใช้สูตรหาร 100 ก็จะเป็นประโยชน์กับพรรคใหญ่ เช่น พรรคเพื่อไทย แต่หากเลือกสูตรหาร 100 จะขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 93, 94, 27 ในกรณีหากใช้สูตรหาร 500 ก็จะเป็นประโยชน์กับพรรคเล็กและพรรคขนาดกลาง แต่ก็มีข้อขัดแย้งรัฐธรรมนูญเช่นกัน
ทั้งนี้ มงคลกิตติ์ กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์เป็นพรรคขนาดเล็ก หากจะร่วมลงมติในการแก้ไขร่าง พ.ร.ป.ฉบับดังกล่าว ให้เป็นประโยชน์กับตนเอง แม้ในสูตรหาร 500 จะทำให้พรรคไทยศรีวิไลย์จะได้ประโยชน์ แต่มองว่าไม่สมควรจะลงมติ เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์เรื่องพรรคการเมือง จึงได้ตัดสินใจที่จะงดออกเสียงในการแก้ไขร่าง พ.ร.ป. ดังกล่าว
นอกจากนี้ มงคลกิตติ์ ให้ความเห็นว่า การแก้ไขกฏหมายไม่ใช่เรื่องที่ ส.ส.ควรมาแก้ไข แต่ควรตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้ตัวแทนประชาชนที่ประชาชนเลือก มาแก้ไขปัญหาเรื่องสูตรหารจะดีกว่า เพราะหากให้นักการเมืองแก้ ก็จะแก้แต่ในด้านที่ให้ได้มาซึ่งประโยชน์โดยส่วนตัวของแต่ละพรรค
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคิดเห็นอย่างไร ในการเปลี่ยนมาหนุนสูตร 500 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพรรคร่วมรัฐบาล มงคลกิตติ์ กล่าวว่า นายกฯ คงกลัวแลนสไลด์ของพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นผลโพล จึงกลับลำเป็นเห็นด้วยกับสูตรหาร 500 ความจริงนายกฯ ไม่ควรต้องกลัว ควรจะทำผลงานแข่ง อาจสู้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สัก 5% แต่ถ้าหากไม่ทำผลงานแข่ง ก็ดูจะสู้ไม่ได้ แต่ดูแล้วก็คงจะสู้ไม่ได้ ไม่น่าทันแล้ว ถ้าจะสู้ให้ได้ก็ต้องตื่นตี 3 แข่งกับ ชัชชาติ