ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เผยแพร่คลิปวีดีโอรายการ 'สนามกฎหมาย' โดยเสนอข้อเรียกร้องให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ออกมาอยู่ข้างประชาชน ซึ่งตอนหนึ่งระบุว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมดความชอบธรรมแล้ว ตอนนี้อยู่ในสภาวการณ์ที่ไม่สามารถปกครองประเทศได้ ระบอบประยุทธ์กำลังอยู่ในสถานะสั่นคลอนจนน่าจะใกล้ถึงวาระสุดท้าย และเป็นธรรมชาติของเผด็จการทรราชย์ที่เมื่อใกล้ล่มสลายก็จะดิ้นเฮือกสุดท้าย ใช้อำนาจ กลไกรัฐทุกอย่างปราบปราบประชาชนผู้ต่อต้าน
ทั้งนี้ เมื่อวันก่อนมีอดีตข้าราชการตำรวจคนหนึ่งลุกขึ้นปราศรัยในที่ชุมนุม เรียกร้องตำรวจให้หันมาพิทักษ์ประชาชน และยังปรากฏข่าวด้วยว่า ตำรวจที่รับภารกิจครั้งนี้ แสดงออกถึงความไม่พอใจที่ถูกบังคับให้มาทำหน้าที่ควบคุมและสลายชุมนุม โดยไม่พอใจเรื่องสวัสดิภาพ สวัสดิการอาหาร ที่พักอันแร้นแค้น การอยู่อย่างยากลำบาก ต้องนอนระเกะระกะ นอนไม่เป็นเวลา บนพื้นถนนหรืออาคารต่างๆ ขณะที่อาหารมีเพียงข้าวกล่อง เศษผัก ไข่ต้ม จำใจต้องทำหน้าที่ที่ไม่อยากทำ ซึ่งแท้จริงแล้วนั้นก็ไม่ใช่หน้าที่ แต่เป็นคำสั่งเผด็จการทรราชย์ที่ต้องการให้ปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อรักษาอำนาจเขาเอาไว้
ปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า เชื่อเหลือเกินว่า หลายคนเข้ามาเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เพื่อรับใช้ประชาชน เพื่อศักดิ์ศรีในการทำงานราชการ เพื่อต้องการการงานที่มั่นคง และไม่มีใครเข้ามาเพื่อต้องการทำการปราบปราม นักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชน แต่นี่คือระบอบเผด็จการทรราชย์ ระบอบคณาธิปไตยกินคนที่บังคับให้ข้าราชการทั้งหลายจำเป็นต้องทำ พวกท่านต่างก็เป็นเหยื่อเผด็จการทรราชย์นี้เหมือนกับที่เยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชนกำลังเป็นเหยื่ออยู่เช่นเดียวกัน
ดังนั้นจะรับใช้ระบอบแบบนี้ต่อไปเพื่ออะไร เพราะพวกเขาซึ่งทรงอำนาจในปัจจุบัน ได้เสวยสุข ได้ครองอำนาจต่อไป ขณะที่พวกท่านต้องเสี่ยงตาย ต้องปฏิบัติงานจนโดนประชาชนรังเกียจ ก่นด่าประณาม พวกเขาอยู่ในอำนาจ มีแต่ความร่ำรวย มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ท่านต้องยืนกุมเป้า เดินตามนาย รับใช้นาย เพียงเพื่อจะรอเศษเนื้อที่บรรดาผู้มีอำนาจจะแบ่งปันจุนเจือบ้าง
"ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ออกมายืนอยู่ข้างประชาชน ท่านคือคนที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในนามของรัฐ ใช้อำนาจรัฐ งบประมาณรัฐ ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและเพื่อประชาชน มิใช่เป็นไปเพื่อคณะผู้ปกครองคนใดคนหนึ่ง คณะใดคณะหนึ่ง หรือตระกูลใดตระกูลหนึ่ง" ปิยบุตร กล่าว
ปิยบุตร กล่าวอีกว่า การต่อต้านขัดขืน การปฏิเสธคำสั่งที่อยุติธรรม การปฏิเสธคำสั่งที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง อาจนำมาซึ่งความเสี่ยง อาจทำให้ท่านต้องออกไปจากพื้นที่อันสะดวกสบายในชีวิตการงานของท่าน แต่ทั้งหมดนี้จะนำพาไปสู่เสรีภาพ หากท่านตัดสินใจออกจากงานที่ท่านทำแล้วมายืนอยู่ข้างประชาชน ก็อยากขอให้ท่านระบุเหตุผลในการลาออกให้ชัดเลยว่า ลาออกเพราะทนไม่ได้กับระบอบเผด็จการทรราชย์ที่สั่งให้ทำในสิ่งไม่อยากทำ ทนไม่ได้กับระบอบคณาธิปไตยกินคนที่บังคับให้ทำการบางอย่างที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง บันทึกไว้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ประชาชนชนะ จะพาท่านกลับเป็นข้าราชการ เป็นทหาร เป็นตำรวจอย่างสมศักดิ์ศรี
นอกจากนี้ ตนอยากชวนให้ภาคเอกชน บริษัทห้างร้าน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการต่างๆ ที่สนับสนุนการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน หากพอมีกำลังความสามารถอยู่บ้าง ถ้ามีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ คนไหนยอมทิ้งหน้าที่การงาน ลาออกมายืนข้างประชาชน ขอให้ภาคเอกชนสนับสนุน อาจจ้างเข้าไปทำงาน อย่างน้อยที่สุด คนกลุ่มนี้จะได้มีเส้นทางที่เขาสามารถเลือกได้ กรณีที่เขาตัดสินใจยุติไม่รับใช้เผด็จการทรราชย์
"ออกมายืนอยู่ข้างประชาชนเถอะพี่น้องข้าราชการทั้งหลาย ร่วมกับประชาชนในการต่อต้านเผด็จการทรราชย์ ร่วมกันก่อตั้งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และเมื่อก่อตั้งระบอบที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ยึดมั่นในเรื่องเสรีภาพ เสมอภาค ภารดรภาพ ได้แล้ว เราประชาชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลาย จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้แน่นอน หยุดการเป็นกลไกฟันเฟืองรับใช้เผด็จการทรราชย์ หยุดรับใช้ระบอบคณาธิปไตยกินคน ฟื้นเอาความเป็นมนุษย์ในตัวตนของตนเองกลับมา ออกมายืนอยู่เคียงข้างประชาชน ล้มเผด็จการ ร่วมกันก่อตั้งสังคมใหม่ด้วยกัน" นายปิยบุตร กล่าว