คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อเดือนที่เเล้วหลังจากประชุมพรรคเสร็จ ตนและน้องๆ ได้ชวนกันเดินไปซื้อชานมไข่มุกที่ตึกสิงห์ ซึ่งไม่ไกลจากพรรค ขากลับเจอคุณยายคลอน กำลังหาบขนมขาย ยายแต่งกายสะดุดตาด้วยผ้าถุง เสื้อคอกระเช้า มีเสื้อสีน้ำเงินสวมคลุมแบบที่ชาวนาใส่กัน และสวมงอบ ตนเรียกคุณยายไว้เพื่ออุดหนุนขนมในหาบ ที่เต็มไปด้วยขนมหลายอย่างทั้งข้าวแต๋น ทองม้วน และโรตีกรอบ ของชอบ ถามคุณยายว่ามาจากไหน
ยายตอบว่าเป็นคนสุรินทร์ แต่หนีแล้งเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อตระเวนหาบขนมขาย ยายเล่าว่า “ปีนี้ทำนาไม่ได้เลย จึงต้องดิ้นรนเข้ามาหาบขนมขายในกรุงเทพฯ” ตนฟังแล้วก็สะท้อนใจ
“คุณยายคลอนบอกว่าอายุ 75 ปีแล้ว หนีแล้งมากรุงเทพเพื่อมาหาเงินเลี้ยงหลาน มาเช่าบ้านเขาอยู่ วันนั้นหน่อยได้ให้กำลังใจยายคลอน และอุดหนุนขนมมาให้น้องๆที่พรรคทานกันแบบอิ่มอร่อย วันก่อนหน่อยเข้ามาทำงานที่พรรค พบยายคลอนกับหาบคู่ใจ ที่หน้าตึกพรรค ยายคลอนมานั่งรอหน่อย และทราบจากเจ้าหน้าที่พรรคว่าคุณยายเคยมาถามหาหน่อยอยู่หลายครั้งแล้ว แต่คลาดกัน ต้องขอโทษคุณยายด้วยนะคะ ที่ช่วงที่ผ่านมาหน่อยลงพื้นที่ตลอด ก่อนหน้านี้ก็ไปดูชาวบ้านที่ประสบกับภัยแล้ง ตอนนี้ก็ไปตระเวนช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม แต่วันนี้ดีใจมากๆค่ะ ที่เราได้พบกันอีกครั้ง คุณยายคลอน มาดักรอหน่อยเพื่อนำผ้าไหมผืนงาม จากสุรินทร์มาฝากบอกหน่อยว่า ให้ตัดเสื้อใส่นะ”
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า คุณยายบอกอีกว่า ขอมอบให้เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณที่ไม่ลืมคนอีสาน เพราะเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่ไปลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม และขอเป็นกำลังใจให้ตน และทีมพรรคเพื่อไทย ได้ทำงานช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยต่อไป
“หน่อยเลยขอถือโอกาส ลองยกหาบของคุณยายดูว่าหนักแค่ไหน ปรากฏว่ายกไม่ขึ้นค่ะ หนักมาก แต่ยายคลอน ซึ่งมีอายุถึง 75 ปีแล้ว ต้องหาบของอันหนักอึ้งนี้ไว้บนบ่า ออกเดินทั้งวันบนทางเท้าร้อนๆของถนนเพชรบุรี เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพหน่อยถามคุณยายอีกว่า วันนี้เดินขายของมาไกลแค่ไหนแล้ว คุณยายบอกหน่อยว่า โหว นับไม่ถ้วนคุณหญิง ต้องสู้แบบนี้ทุกวัน"
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ก่อนจากกัน คุณยายคลอนบอกว่า “หาบที่แบกไว้บนบ่า มันไม่หนักเท่าภาระที่ต้องแบกไว้ในใจหรอกลูกเอ๋ย” ฟังแล้ว หน่อยต้องขอคารวะในความเป็นหญิงนักสู้ของคุณยายคลอน ที่ไม่ยอมแพ้ต่อความยากจน และความยากลำบากใดๆ แม้วัยจะล่วงเข้า 75 ปีแล้ว ตนขอเป็นกำลังใจให้ คุณยายคลอน “ยอดนักสู้” และขอกราบขอบพระคุณน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ของคุณยาย ที่มอบให้กับตน
“หน่อยจะเอาผ้าไหมที่ยายให้ไปตัด และจะใส่ไปอวดยายนะคะ”