ไม่พบผลการค้นหา
อดีตประธานรัฐสภา แนะทุกฝ่ายโดยเฉพาะตัวแทนประชาชนร่วมพูดคุยหาทางออก ส่วนทหารต้องกลับกรมกอง ก่อนประเทศจะเดินเข้าสู่ Dead Zone เปิดทางฝ่ายความมั่นคงยึดอำนาจ

นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ข้อกังวลเรื่องการเลือกตั้งโมฆะถูกพูดถึงก่อนจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ไม่ต้องการให้พรรคใดพรรคหนึ่งมีเสียงข้างมาก และกติกาบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว ทำให้ประชาชนไม่สามารถ เลือกคนและพรรคที่ต่างกันได้ 

ออกแบบกติกา ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความยากลำบาก รัฐบาลจะไม่สามารถอยู่ได้ สำหรับกลุ่มคนที่คิดจะดำเนินการในลักษณะที่เรียกว่า 'งูเห่า' ด้วยการเดินหน้าล็อบบี้ ในท้ายที่สุดจะถูกสังคมจับได้ว่าใครเป็นผู้ดำเนินการเสนออามิสสินจ้างอย่างไร เพราะฉะนั้นความชอบธรรมจะไม่เกิดขึ้น

วันนี้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากประชาชนจะต้องแสดงวุฒิภาวะ ให้ประชาชนได้เห็นว่า บุคคลที่ประชาชนเลือกมา คำนึงถึงจิตใจของประชาชน และมาหารือร่วมกันว่าจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องให้คนที่มีอำนาจมานั่งบังคับ ให้ปลดปล่อยตนเองออกจากฝ่ายที่ใช้อำนาจ ทั้งใต้ดินบนดินออกไป และใช้หัวใจที่จะทำเพื่อประชาชนมาร่วมพูดคุยกัน เชื่อว่าจะนำไปสู่ทางออกที่ดี

แต่หากไม่ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจะนำไปสู่ Dead Zone ซึ่งจะเป็นมูลเหตุของการยึดอำนาจหรือมูลเหตุอื่นๆ เพื่อที่จะไม่ให้คนที่พึงประสงค์ เข้ามาจัดตั้งรัฐบาล

อดีตประธานรัฐสภาระบุด้วยว่า หากยังใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ใช้เล่ห์เหลี่ยม เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ และเห็นว่าหากเลือกที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จะทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ สิ่งที่ไม่พึงประสงค์จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะการล็อบบี้เสียง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าประเทศกำลังเดินถอยหลัง กลับไปไกลถึง พ.ศ.2500

นายยงยุทธ ระบุว่า บุคคลที่ไปสนับสนุนพรรคสืบทอดอำนาจจำนวนมาก ไปแบบเป็นเชลย หลายคนกังวลเรื่องคดี กลัวถูกตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งเชื่อว่าอาจไม่ได้ไปเพราะชอบหรือศรัทธา ดังนั้นหากเอาปัญหาของบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ทหารกลับเข้ากรมกอง และบุคคลที่มาจากการคัดเลือกของประชาชนร่วมปรึกษาหารือหาทางออก หยุดความพยายามในการล็อบบี้ ตอบโต้ผ่านหน้าสื่อ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประชาชน จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

กลุ่มคนที่มาจากตัวแทนของประชาชนจะต้องมาร่วมพูดคุยกัน ซึ่งพรรคในฝ่ายประชาธิปไตยยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่ เพียงแต่มีความประสงค์จะหยุดการสืบทอดอำนาจเท่านั้น และเห็นว่าหากจะมีรัฐบาลแห่งชาติ ต้องเป็นรัฐบาลแห่งชาติภาคประชาชน โดยให้คนที่มาจากประชาชนร่วมพูดคุยกัน แต่หากรัฐบาลแห่งชาติมาจากผู้มีอำนาจเป็นผู้กำกับควบคุม โดยกำหนดว่าจะให้บุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าหลายพรรคการเมืองจะปฏิเสธเพราะต้องการเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย