บริษัทดิสนีย์เปิดเผยว่า ยอดขายจะสูงขึ้นร้อยละ 21 ขึ้นมาที่ 18,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 584,000 ล้านบาท) แต่กำไรของไตรมาสล่าสุด ลดลงไปถึงร้อยละ 91 จากการปิดสวนสนุกและรีสอร์ท 12 แห่งทั่วโลก หลังจากหลายประเทศมีมาตรการปิดเมืองและเว้นระยะทางสังคมเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีการประเมินว่า ไวรัสโคโรนาจะกระทบกับธุรกิจของดิสนีย์ทั้งหมดถึง 1,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 45,400 ล้านบาท)
ดิสนีย์เปิดเผยว่า รายได้จากการดำเนินการในส่วนที่เป็นสวนสนุก ประสบการณ์และผลิตภัณฑ์ ตกลงร้อยละ 58 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 หรือประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) แต่ดิสนีย์ประกาศว่า เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปิดไปตั้งแต่ม.ค. จะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งวันที่ 11 พ.ค.นี้ โดยสวนสนุกจะใช้มาตรการป้องกันโรคและจำกัดจำนวนคนเข้าสวนสนุก
แม้จะมีคนสมัครสมาชิกดิสนีย์พลัส แพลตฟอร์มออนไลน์ของดิสนีย์มากขึ้น ภายใจเวลาเพียง 5 เดือน มีคนสมัครสมาชิกไปแล้วประมาณ 54 ล้านคนทั่วโลก แต่ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการให้บริการก็สูงมากเช่นกัน จนทำให้รายได้จากการดำเนินงานบริการสตรีมมิ่งตกลงไปที่ 812 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 26,000 ล้านบาท) ในไตรมาสล่าสุด
กำไรที่ลดลงส่งผลให้ดิสนีย์ประกาศว่า จะไม่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณนี้ โดยคาดว่าจะสามารถรักษาเงินสดไว้ได้ราว 1,600 ล้านดอลลาร์ (51,900 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม บ็อบ ชาเปก ซีอีโอคนใหม่ของดิสนีย์กล่าวว่า เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของสินทรัพย์ของบริษัท เพราะดิสนีย์มีความสามารถในการฟื้นตัวจากวิกฤตอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับคุณภาพในการเล่าเรื่อง และความรู้สึกของลูกค้าที่มีความใกล้ชิดกับแบรนด์
https://edition.cnn.com/2020/05/05/media/disney-earnings-q2-2020-coronavirus/index.html
https://www.bbc.com/news/business-52553003