ไม่พบผลการค้นหา
21 ธ.ค.2564 รายการ CARE TALK กับ Tony Woodsome หรือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จัดเป็นตอนสุดท้ายของปี 2564 โดยจะมีการรีวิวปัญหาของปีที่ผ่านมาและแนะนำแนวทางแก้ปัญหา เชื่อรัฐบาลประยุทธ์ไม่น่าอยู่ครบเทอม

โทนี่กล่าวถึงภาพกว้างว่า วันนี้โควิดเป็นตัวกระแทกหนักจนคนสงสัยว่า เศรษฐกิจแบบทุนนิยมดีจริงหรือเปล่า เกิดการถกเถียงว่าต้องเปลี่ยนครั้งใหญ่แล้วหรือไม่ จึงอยากแนะนำเล่มหนึ่ง ชื่อ Mission Economy เขียนโดย Mariana Mazzucato ซึ่งบอกว่าเมื่อก่อนรัฐบาลปล่อยมือให้เอกชนเล่นกันเอง มีบทบาทน้อยมาก  เขาเห็นว่าในปัจจุบันรัฐบาลต้องเข้ามามีบทบาทในการดูแลความเป็นธรรม ความเสมอภาคแก่สังคมทั่วไป ทั้งเทคโนโลยีที่ดิสรัปท์ ทั้งโควิด ทำให้คนลำบากมาก ช่องว่างความเหลื่อมล้ำสูงมาก จึงต้องให้รัฐบาลลงทุนมากขึ้น รับความเสี่ยงแทนประชาชน เพื่อให้เทคโนโลยีกระจายได้ทุกภาคส่วน แนะนำให้อ่านคู่กับ Power of Creative Destruction ยิ่งพัฒนายิ่งสร้างสรรค์ ก็ยิ่งทำลายล้างสิ่งอื่น อ่านคู่กันแล้วเราจะเข้าใจโลกมากขึ้น

“วันนี้ไทยก็โดนหางเลขของทั้งระบบด้วย รัฐบาลต้องเข้ามามีบทบาท กล้าลงทุน อย่างที่บอกว่าควอนตัมคอมพิวเตอร์มาแล้วนะ ซึ่งมันสร้างได้ยากมาก เป็นตัวอย่างที่รัฐต้องลงทุนเพื่อให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงเทคโนโลยีที่กำลังมา”

โทนี่กล่าวถึงวิกฤตหลักในโลก ว่าคือเรื่องความเหลื่อมล้ำกว้างขึ้นเรื่อยๆ, เศรษฐกิจเติบโตล่าช้า, สิ่งแวดล้อม, ระบบราชการที่ล้าหลัง  

หากมอง 2564 ทั้งปีบอกได้ว่า รัฐบาลผิดพลาดมากในเรื่องโควิด-19 แต่ตอนหลังพยายามก็ดีขึ้น ตอนต้นเหมือนชะล่าใจ เตรียมการไว้ไม่ดี ระบบจัดซื้อจัดจ้างวัคซีนโควิดยังแย่อยู่ วันนี้รัฐบาลภูมิใจมาก 100 ล้านเข็ม เรียกว่ารัฐบาลไล่ตามได้ดี ตอนนั้นก็ต้องดูถูกไว้ก่อน รัฐบาลจะได้ฮึด ด้วยความปรารถนาดีอยากให้ประชาชนได้รับบริการเต็มที่ ปัญหาอีกอย่างของรัฐบาลคือ ไม่ยอมซื้อ mRNA อย่างจริงๆ จังๆ

“วันนี้มีข่าวเรื่องการเปลี่ยนใจ test and go เพราะเราตกใจโอไมครอน ตอนแรกรัฐมนตรีสาธารณสุขบอกกระจอก วันนี้มาตกใจ ขอเรียนว่า สมติฐานของโอไมครอนพบว่า ในหลอดคอเชื้อจะเยอะ ลงปอดน้อยมาก แต่มันไปลงปอดใคร 'ปอดแหก' หมด ตอนนี้ข่าวคราวทั้งหลาย ในที่สุด เรากลัวไฟเซอร์ไม่รวย โมเดอร์นาไม่รวย เชียร์กันแหลก เราตกใจกันเยอะไปหรือเปล่า ข่าวมันเยอะเพราะทุกคนเป็เนเหยื่อความกลัวหมด ... เราเตรียมการให้ดี อย่าตกใจ เพราะมาถึงวันนี้ถ้ามาตกใจ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะเยอะกว่า เราสตาร์ทเครื่องแล้วดับ สตาร์ทแล้วดับ มันยากมากที่จะฟื้น วันนี้ถามว่า เรามีโรคอื่นไหม ที่ไม่มีคนสร้างความกลัวในไทย มีเยอะมาก”

โทนี่กล่าวอีกว่า วันนี้เงินเฟ้อไทยประมาณ 3% จีดีพีโตไม่ถึง 1% สินค้าขึ้นราคาแต่รายได้ที่มีมันต่ำกว่า ถ้ายังไม่มีท่องเที่ยวมาช่วยจะแย่มาก เพราะพระเอกในเศรษฐกิจไทยคือ  1.การท่องเที่ยว 2.เงินลงทุนจากต่างประเทศ 3.การลงทุนจากรัฐบาล 4.การส่งออก 5.การใช้จ่ายภายในประเทศ

โทนี่กล่าวว่า ตอนนี้เงินลงทุนจากต่างประเทศหายไป เพราะความพร้อมต่อเทคโนโลยีไม่มี การศึกษาของเราไม่ได้เตรียมไว้ เรื่องความชำนาญเป็นหัวใจสำคัญ ส่วนเรื่องท่องเที่ยว ถ้าเปิดปิดอย่างนี้ไม่มั่นคง อยากให้ดูตัวอย่างดูไบที่มั่นคง เน้นเร่งฉีดวัคซีนอย่างเดียว แล้วทำระบบให้ดี เศรษฐกิจก็ไปได้ดีมาก ศูนย์การค้าวันหยุดเปิดถึงเที่ยงคืน ทุกอย่างเป็นปกติ ความต่อเนื่องก็เกิดขึ้น ดังนั้น วันนี้เร่งเติมวัคซีนดีกว่า เตรียมความพร้อมพวกยาที่จะใช้รักษา แล้วปรับชีวิตให้อยู่ใน new normal  

“อีกเรื่องหนึ่ง คอร์รัปชั่นรุนแรงมาก ท้าได้เลยว่า งบประมาณที่เป็นงบลงทุนทั้งหลายถึงมือประชาชน 50% ก็เก่งหายโหงแล้ว ทอนกันเป็นชั้นเลย การติดต่อราชการก็ไม่เหมือนเดิม ต้องซื้อบริการเอาเองถึงจะได้บริการที่ดี ไม่งั้นก็มีปัญหาอ้างโน่นอ้างนี่ทั้งวัน รัฐบาลนี้มีคอร์รัปชั่นมากที่สุด ดัชนีโลกก็บอกมาว่ามันแย่สุด แล้วท่านบอกรัฐบาลของท่านดีมาก ซื่อสัตย์สุจริต ท่องเป็นคาถา ไม่เชื่อไปถามพรรคร่วมรัฐบาล แจกส.ส.คนละ 3 แสน เอาตังค์ที่ไหนมา ถามหน่อยเถอะ มีเทศกาลแจกกล้วยพิเศษอีก เป็นหวีไม่ได้ ต้องเป็นเครือ ท่านไปดูให้ดี มันทำลายกัดกร่อนเศรษฐกิจมากในปีนี้”

โทนี่ กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยอ่อนแอมากจริงๆ ถึงระดับโครงสร้าง หนี้สินต่อครัวเรือนพุ่งกระฉุด หนี้เสียในระบบพุ่ง แล้วรัฐยังกู้เงินมาแจก ไม่ได้กู้มาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แล้วต่อไปคงหาเรื่องขึ้นภาษี กลายเป็นปู่ย่าตายายได้รับแจกวันนี้ ลูกหลานจะต้องรับภาระเพราะภาษีสูงขึ้น นี่คืออนาคตถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป

“อีกตัวหนึ่งที่รัฐไม่ค่อยจริงจังคือ ปัญหายาเสพติด ราคาถูกมาก เพราะว่าต้นทุนเขาต่ำอยู่แล้ว แล้ววันนี้หาง่าย เจ้าหน้าที่ช่วยกันคุมการแจกจ่ายหมด ผมตำรวจเก่าทำไมจะไม่รู้ การปราบไม่ใช่ปราบอย่างเดียว ต้องแยกอุปสงค์อุปทานออกจากกัน เด็กติดยาแทนที่จะเอาไปฟื้นฟูก็เอาไปจับยัดเข้าคุก ทั้งที่เราแก้กฎหมายแล้วว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วยต้องรักษา แต่ผู้เสพเสพไปเสพมาก็ค้าเองเพราะไม่มีเงิน ปีหน้าถ้าอยากอยู่ต่อก็ปราบหน่อยให้มันดีขึ้น”

อีกเรื่องคือ สิ่งแวดล้อมที่แย่มาก ประชุม COP26 มา ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย PM2.5 แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาล่วงหน้า เรื่องน้ำท่วมก็เหมือนกัน น้ำอาจยังไม่ท่วมกรุงเทพฯ สมัยท่านอยู่ แต่รุ่นหลังๆ จะเห็นน้ำท่วม กทม. ถ้าไม่ทำระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแต่วันนี้ เรื่องป่าก็เหมือนกันที่ผ่านมาไม่ได้ทำเลย ขอให้มียุทธศาสตร์หน่อย จะแก้เรื่องอะไรก็วางยุทธศาสตร์เรื่องนั้นๆ

“อย่าหวังยุทธศาสตร์ชาติเลยอันนั้นทำแก้บน ยกตัวอย่างดูไบ 2018 อีกสามปีจะครบ 50 ปีของการรวมสหรัฐ เขาจะประกาศเป็นรัฐบาลแรกที่จะไม่มีระบบกระดาษเลย ทุกอย่าง digitalized เขาทำสำเร็จ แต่วางแผนล่วงหน้าสามปี วางเป็นขั้นตอนหมด”

“อีกอันที่เลวร้าย วันนี้ตอนที่เอาสมคิดเข้ามาช่วย มีการล้วงเงินนอกงบประมาณไปหลายที่ เงินประกันสังคมก็ดี เงินกองทุนบำเหน็จบำนาญก็ดี เงินอะไรก็ตาม ท่านต้องหาไปใช้เขา ต่อไปจะเดือดร้อน อย่างประกันสังคมมันเป็น 3ฝ่ายจ่าย แต่ปรากฏว่ารัฐบาลเป็นคนจ่ายช้าสุด วันนี้ติดนี้อยู่เยอะ แล้วเอาไปใช้ด้วย อันนี้อันตราย”

“ย้ำอีกทีว่า ดีที่สุด รีบ back to new normal ยิ่งช้ายิ่งเจ็บ ทั้งรัฐบาลและประชาชน รีบหาวัคซีน รีบหายามา ไหนๆ ก็มาขนาดนี้โดดลงเรือซื้อยามา นักการเมืองในหลายประเทศ เป็นนักการเมืองที่ขาดประสบการณ์ในชีวิต จบมาเป็นนักการเมืองทันที ไม่เข้าใจชีวิตพอ เห็นประเทศใหญ่ทำทำตามๆ ไม่น่าผิด ไม่ได้คิดในสิ่งแวดล้อมของตัวเอง ซึ่งมันไม่เหมือนใคร ดังนั้น เราต้องปรับตามสิ่งแวดล้อมของตัวเอง”

มีคำถามว่ารัฐอ้างโควิด แต่จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน คิดเห็นอย่างไร โทนี่กล่าวว่า The Economist เคยเขียนเล่มนึงว่า pandemic of grabbing power การใช้โรคระบาดเป็นข้ออ้างในการกระชับอำนาจตัวเอง แล้วความจริงใจในการรักษามีต่ำมาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีใครเขาต่อได้ยาวขนาดนี้ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ใช้ป้องกันการเดินขบวน เรื่องอื่นแทบไม่ได้ใช้กฎหมายนี้เลย

มีคำถามจากทางบ้านให้วิเคราะห์อนาคตการเมืองไทยในปี 2565 โทนี่กล่าวว่า เสถียรภาพของรัฐบาลน่าจะไม่ค่อยดี เพราะความขัดแย้งภายในของ พปชร. การเลือกตั้งซ่อมคงทำให้ พปชร.กับ ปชป. กินใจกันบ้าง เป็นธรรมดาของการเลือกตั้งซ่อม ส่วนพรรคฝั่งประชาธิปไตยก็ดูเป็นปึกแผ่นขึ้น มีการพูดจากันรู้เรื่องมากขึ้น เชื่อว่า รัฐบาลไม่น่าจะอยู่ครบเทอม เพราะอยู่ไปก็ไม่มีเสถียรภาพ ปัญหาใหญ่คือ วันนี้รัฐบาลจะหวังว่าเอาเงินอันนั้นลงอันนี้ลงแล้วเศรษฐกิจจะดีคงเป็นไปไม่ได้ เศรษฐกิจวันนี้มันอยู่ระดับโครงสร้างพังแล้ว มันต้องผ่าตัด ใช้ยาหอม ยาลมให้กินไม่ได้แล้ว ไหนจะหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน สินค้าราคาขึ้น ฯลฯ ปัญหาวันนี้คือการทำมาหากินของชาวบ้านที่นับวันยิ่งรายได้ต่ำ แต่ค่าใช้จ่ายสูง ตรงนี้จะหยุดไม่อยู่ ถ้ารัฐบาลจะคิดแก้ปัญหาวันต่อวัน เอาเงินแจก กู้มาเพิ่ม ไม่มีทางจะฟื้นได้ โอกาสที่รัฐบาลจะได้รับความเชื่อถือเพิ่มขึ้นไม่น่าจะมี

มีคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะบทบาทรัฐไทยต่อรัฐบาลทหารพม่า โทนี่กล่าวว่า อาเซียนไม่ใช่อาเซีนเดิมแล้ว ขาด leadership ในอาเซียนมาก เราเคยเป็นหลักในอาเซียน แต่วันนี้ไม่ใช่อีกต่อไป

“เมื่อก่อนผมก็สู้ให้เขานะ แต่ผมมีเงื่อนไขหมด คุณต้องร่างรัฐธรรมนูญ คุณต้องพูดให้โลกฟังนะว่าเตรียมการเพื่อการเลือกตั้งอย่างไร ผมก็พยายามเชียร์เขาจนเขาได้เข้าร่วมประชุมต่างๆ มากขึ้น ผลสุดท้ายวันนี้เขาถอยหลัง เราเองก็ถอยหลัง เลยเห็นอกเห็นใจเขา พอไม่มีความเป็นประชาธิปไตย เราก็เลยไม่ผลักดันประชาธิปไตย อันนี้อเมริกาเขาถือว่าเราไม่เป็นประเทศที่โปรประชาธิปไตย เราต้องปรับตัวใหม่ การต่างประเทศเราถอยหลังไปเยอะ ไม่สามารถเจรจาอะไรในเวทีโลกได้เลย พม่าเราควรมีบทบาทเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมของคนในชาติที่ถูกฆ่าตายเยอะ เจรจาให้เขาลดบทบาทได้ไหม ประกาศเลือกตั้งได้ไหม เราควรไปตรงนั้นมากกว่าที่จะไปช่วยเขาปกปิด ต้องคุยอย่างสร้างสรรค์เพื่อคนในชาติเขาและชาติเรา ถ้าคนในชาติเขาทุกข์อยู่ไม่ได้เขาก็มาชาติเรา”

มีคำถามจากทางบ้านว่า อะไรที่ควรถูกลดเป็น 3 อย่างแรกเพื่อให้ประเทศก้าวหน้าได้ โทนี่ตอบว่า

1.ระบบราชการด้อยลงไปมาก ราชการต้องปรับปรุง เป็นผู้ให้บริการมากกว่านี้ ต้องรีบเปลี่ยนเป็น e-government โดยเร็ว สร้างแอพสำหรับบริการให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นประชาชนติดต่อราชการลำบาก ราชการมีหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการทำมาหากิน แต่วันนี้เป็นอุปสรรค และเป็นต้นทุนสำหรับประชาชนเสียแล้ว

2.ความห่วงใยต่อประชาชนต่ำมาก ไม่สนใจทุกข์ของประชาชนเท่าที่ควร นายกฯ ควรรักประชาชนมากกว่านี้

“ใครว่าคุณประยุทธ์ไม่ฉลาด ไอคิวแกสูงนะไม่งั้นสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยไม่ได้ วันนี้ที่พูดอะไรสะเหล่อออกมา ผมไม่แน่ใจว่าเป็นมาร์เก็ตติ้งของแกหรือเปล่า เพื่อให้คนลืมความทุกข์ยากมาสนใจเรื่องบ้าๆ ของแกหรือเปล่า เป็นมาร์เก็ตติ้งมุมกลับของแก แกแกล้งคุยกับสัตว์ตรงนั้นตรงนี้ ผมว่าเป็นการตลาดของแกนะ ไม่ได้คิดว่าแกตั้งใจโง่ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ”

3.การต่างประเทศในเวทีโลก เราต้องแสดงความสำคัญ ไทยจำเป็นต้องอยู่ในประชาคมโลกฝ่ายประชาธิปไตยและเป็น good citizen ของโลก ไม่ต้องใช้ กต.ไปวิ่งห้ามประเทศต่างๆ ไม่ให้ต้อนรับตน เพราะตนปรับตัวได้ happy on every journey ไม่ต้องรอให้มีความสุขเมื่อถึงปลายทาง

มีคำถามจากทางบ้านว่า ปี 2022 เมกกะเทรนด์คืออะไร โทนี่กล่าวว่า เรื่องสำคัญมีหลายเรื่อง เช่น AI ต้องเริ่มให้เด็กเรียนโปรแกรมโคดดิ้งตั้งแต่วันนี้ เพราะมันอยู่ในแทบทุกอย่าง ต่อไปจะไปไกลถึง BCI และต้องเน้น creative economy & soft power โดยต้องเข้าใจคำว่า global test เพื่อให้เราสร้าง brand ของเราได้  ส่วน soft power คือเรื่องคน สร้างความเป็นเลิศของคนในสิ่งที่เขามีได้อย่างไร อีกเรื่องหนึ่งคือ สิ่งแวดล้อมเช่นพวก green energy

มีคำถามจากทางบ้านขอคำอวยพรปีใหม่ โทนี่กล่าวว่า

“เดี๋ยวเราจะอวยพรกันรอบหน้า แต่รอบนี้ราจะพยายามให้ความหวังกวัน ผมซัพเฟอร์มา 15 ปีต้องอยู่ต่างประเทศ แต่ผมไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมให้ใครมาหัวเราะเยาะว่าเราแพ้ ฉะนั้นเราต้องตื่นตัวแล้วลุกขึ้นสู้ สู้แบบมีสติไม่ใช่สู้ด้วยความโมโห ระหว่างต่อสู้นั้นเราก็ต้องมีความสุขไปวันๆ หนึ่งให้ได้ กินอิ่มนอนหลับ ออกกำลัง แล้วเราก็จะมีสติปัญญาต่อการสู้เรื่องยากๆ ได้ วันนี้ท่านทั้งหลายที่ลำบากในเมืองไทย ลำบากปีนี้หรือปีที่แล้ว แต่ผม 15 ปี อยู่เมืองนอกโดยไม่มีลูก นานๆ มาเยี่ยมกันที ไม่มีเมีย ไม่มีหลาน เหมือนคนโสดอยู่เมืองนอก พยายามทำมาหากินไป เพราะค่าใช้จ่ายเมืองนอกสูง ไม่สบายแต่ผมยังยิ้มได้ ไม่อยากให้คนไทยทุกข์แทนผม ผมยิ้มนอกแต่ในใจผมก็ทุกข์พอสมควร แต่ผมจะไม่ยอมอ่อนแอให้ใครเห็น เพราะเป็นผู้นำคนอีกจำนวนมาก ไม่มีทางเห็นน้ำตาผม ถ้าจะเห็นมันก็ตกในไปเรียบร้อยแล้ว อยากบอกคนไทยทั้งหมดว่าอดทนนะครับ แล้วเราก็จะสำเร็จด้วยกัน”