ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลสหรัฐฯ ถูกวิจารณ์ว่าละเลยความปลอดภัยสาธารณสุข หลังอพยพชาวอเมริกันในเรือสำราญที่ญี่ปุ่นกลับภูมิลำเนาก่อนสิ้นสุดระยะเวลากักตัว ส่วน จนท.สาธารณสุขชี้ ต้องระวังสถานการณ์ 'ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B' ที่น่ากังวลเช่นกัน ทำคนอเมริกันเสียชีวิตกว่า 12,000 รายช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา

ชาวอเมริกัน 300 ราย ผู้โดยสารเรือสำราญ 'ไดมอนด์พรินเซส' ซึ่งเคยถูกกักที่ท่าเรือโยโกฮามะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เดินทางกลับถึงสหรัฐอเมริกาแล้วในวันที่ 18 ก.พ. โดยเครื่องบิน 2 ลำแยกลงจอดที่รัฐเท็กซัสและรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ทั้งหมดจะต้องถูกกักตัวต่ออีก 14 วัน เพื่อรอดูอาการเพิ่มเติม แต่ผู้ที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้วมีจำนวนทั้งหมด 14 คน จะถูกแยกตัวไปรับการรักษาที่อื่น 

การอพยพชาวอเมริกันบนเรือไดมอนด์พรินเซสกลับภูมิลำเนา ดำเนินการโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และหน่วยงานด้านสาธารณสุข แต่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคระบาด เพราะเป็นการอพยพคนกลับก่อนที่จะสิ้นสุดระยะเวลากักตัว 14 วัน จึงมีผู้เกรงว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 19 รายแล้ว

อย่างไรก็ตาม สื่อหลายสำนักในสหรัฐฯ รายงานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีอัตราเสียชีวิตในสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรผู้ติดเชื้อ แต่ความป่วยไข้ที่คร่าชีวิตพลเมืองชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 12,000 รายในระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา คือ โรคไข้หวัดใหญ่ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ B-Victoria โดยพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บีรวมกว่า 22 ล้านคนทั่วประเทศแล้วนับตั้งแต่เดือน ต.ค.

The Washington Post รายงานอ้างอิงสถิติของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (CDC) ประเมินว่า กว่าจะถึงช่วงสิ้นสุดฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ อาจมีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บีราว 31 ล้านคน และอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก

ขณะที่วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่กระจายไปยังรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ มีจำนวนราว 176 ล้านชุด อาจจะไม่สามารถฉีดให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยงได้อย่างทั่วถึง และรัฐบาลควรต้องมุ่งเน้นการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ในระดับเดียวกับที่ตื่นตัวเรื่องไวรัสโควิด-19

เว็บไซต์ Live Science รายงานว่า ความน่ากลัวของไวรัสโควิด-19 คือการที่บุคลากรการแพทย์ไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสดังกล่าวมากพอที่จะนำไปสู่การป้องกันและรักษาอย่างเป็นระบบ เพราะไม่รู้กระทั่งว่าสัตว์ชนิดใดที่เป็นพาหะนำโรค และไม่สามารถใช้ตัวยาที่มีอยู่เพียงขนานเดียวในการรักษาอาการข้างเคียงต่างๆ ได้ โดยเฉพาะโรคปอดอักเสบ ส่วนไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นประจำทุกปี แต่กลับคร่าชีวิตคนจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว จึงถือเป็นเรื่องสำคัญด้านสาธารณสุข

นอกจากนี้ สื่อสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดามาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันเวลา จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย และจะนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด

ชาวอเมริกันได้รับคำแนะนำว่าถ้าหากมีอาการป่วยด้วยโรคหวัด และมีไข้สูงติดกันเกิน 3-4 วัน รวมถึงมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร ควรพบแพทย์หรืออยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว 

ที่มา: Live Science/ Washington Post/ USA Today

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: