หากจะพูดถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในขณะนี้เริ่มใกล้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ทั้งยอดผลิต และยอดจัดจำหน่ายในภาพรวมลดลงไปมากกว่า 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่กำลังจะเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ กลับต้องมีเรื่องให้ภาพรวมตลาดอาจจะชะลอตัวลงอีกครั้ง ภายหลังที่รัฐบาลส่งสัญญาณว่าจะมีนโยบาย ‘รถเก่าและรถใหม่’ ออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ซึ่งทันทีที่กระแสข่าวนี้ออกมา ทำให้ประชาชนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถใหม่ รวมถึงการวางแผนซื้อรถมือสองกลับต้องชะงักลง เพราะต่างคนต่างรอดูสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้ ทำให้มีบางรายถึงกับยอมคืนใบจองรถ จนมีความเป็นห่วงว่าตลาดรถยนต์ในประเทศจะชะลอตัวลงอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้
‘เอ็มจี’ หวั่นตลาดรถยนต์ในประเทศชะลอ จี้รัฐชัดเจนมาตรการกระตุ้นโดยเร็ว
‘วอยซ์’ ได้มีโอกาสพดคุยกับ ‘พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์’ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในงาน MOTOR EXPO 2020 ที่ถือว่าเป็นงานกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยผู้บริหารของเอ็มจีฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์โดยรวมยังถือว่าชะลอตัวอยู่สูงถึง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในส่วนของเอ็มจีประเทศไทย เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวกลับมาเป็นบวกแล้วประมาณ 1% และประเมินว่าในปี 2564 สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศน่าจะเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้
แต่หลังจากที่รัฐบาลส่งสัญญาณว่าจะออกมาตรการ ‘รถเก่าแลกรถใหม่’ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการค่อนข้างเป็นกังวล เนื่องจากขณะนี้นโยบายข้างต้นยังไม่ชัดเจน อาจจะมีผลกระทบให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถใหม่ออกไป ซึ่งสวนทางกับที่ผู้ประกอบการพยายามกระตุ้นตลาดในช่วงโค้งท้ายของปีผ่านงาน MOTOR EXPO 2020
“เรื่องของนโยบายภาครัฐอยากให้มีความชัดเจน เพราะว่าถ้าภาครัฐไม่ชัดเจนจะทำให้ลูกค้าบางส่วนชะลอได้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีมาตครการที่ชัดเจน เพื่อสร้างความเข้าใจโดยเร็ว” พงษ์ศักดิ์ กล่าว
‘นิสสัน’ ชี้ไม่จำเป็นออกมาตรกระตุ้นตลาดช่วงความต้องการสูง
เช่นเดียวกับ ‘อดิศัย สิริสิงห’ รองประธานสายงานการตลาด นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย บอกว่า ยินดีที่รัฐบาลจะออกมาตรการ ‘รถเก่าแลกรถใหม่’ เพียงแต่อยากให้รัฐบาลดูช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสมว่ามีความจำเป็นหรือไม่ในการอัดเงินเข้าในระบบ เนื่องจากในช่วงปลายปีเป็นช่วงที่ลูกค้ากำลังมองหารถยนต์คันหนึ่งอยู่ ซึ่งหลายค่ายก็พยายามอัดโปรโมชั่นเข้ามาเสริมความต้องการอยู่แล้ว ขณะเดียวกันจากความไม่ชัดเจนของมาตรการนี้ หรือบอกไม่ได้เลยว่าจะมีอะไรแน่นอนบ้าง ทำให้เป็นห่วงว่าจะยิ่งส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในประเทศ เพราะหากรัฐบาลไม่ชัดเจนจะทำให้แผนการซื้อรถคันต่อไปชะลอได้
“คิดว่าส่วนหนึ่งรัฐบาลต้องดูจังหวะด้วยว่าจะอัดเงินเข้าไปขอให้ดูจังหวะนิดนึง ว่าจำเป็นหรือเปล่า ซึ่งอาจจะไม่จำเป็น และถ้ารัฐบาลไม่ชัดเจนจะทำให้ลูกค้าสับสน จะกระทบโดยตรงต่อการซื้อรถคันต่อไป” อดิศัย กล่าว
‘ฮอนด้า’ แนะฟังเสียงเอกชนก่อนออกมาตรการ
‘พิทักษ์ พฤทธิสาริกร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า หากเงื่อนไขของโครงการออกมาดี ชัดเจน หรือจูงใจมากพอ ก็มองว่าน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยให้กระเตื้องขึ้นมาได้ ส่วนรายละเอียดว่าจะลดเงินให้ 100,000 บาท ยังต้องไปดูที่นัยยะว่าจะเป็นการลดให้เลย หรือนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ ที่สำคัญคือน่าจะมีการฟังเสียงจากภาคเอกชน พูดคุยกัน และกำหนดออกมาให้ชัดเจนมากกว่านี้ เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมากที่จะทำให้เกิดแรงจูงใจที่มากพอ
ส.อ.ท. เผย มีผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศแค่ 1-2 ราย
ความชัดเจนบางส่วนของมาตรการนี้ ‘สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์’ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ยังเป็นความเข้าใจผิดของผู้ซื้ออยู่อย่างมาก เนื่องจากโครงการฯ ให้แลกเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในประเทศไทย ไม่ใช่ให้รถทุกคันทุกประเภท ซึ่งขณะนี้รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทยได้ตอนนี้ยังไม่เกิดขึ้น มีเพียงแค่ผู้ประกอบการายเล็ก 1-2 รายเท่านั้น ส่วนที่ค่ายใหญ่ ๆ ขายกันอยู่ในปัจจุบันก็ล้วนเป็นรถยนต์นำเข้าทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าร่วมโครงการ และเงิน 100,000 บาท ก็ไม่ใช่การให้โดยตรง แต่ใช้การคิดคำนวณจากฐานภาษีเงินได้ส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่ามาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ในวันที่ 2 ธ.ค. นี้ ซึ่งเบื้องต้นทางด้าน ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการเปิดเผยว่า มาตรการนี้ ยังอยู่ในระหว่างการหารือในรายละเอียดของกระทรวงการคลัง ทั้งในด้านของภาษีที่นำมาใช้ ขั้นตอน กระบวนการ รวมถึงสิทธิประโยชน์ของโครงการ คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ภายในสัปดาห์หน้า ดังนั้นจึงต้องติดตามว่ารูปแบบมาตรการจะออกมาในทิศทางใด
ขณะที่อีกฟากฝั่ง ‘สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เริ่มส่งสัญญาณว่าอาจจะพับแผน โครงการ ‘รถเก่าแลกรถใหม่’ ออกไปจากความไม่พร้อมในหลายด้าน ยิ่งสร้างความสับสนให้กับทั้งผู้ประกอบการและประชาชนเข้าไปแบบรายวัน