“บริษัทเทคโนโลยีมีความรับผิดชอบในมุมมองของผม เพื่อทำให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาปลอดภัยก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ” ไบเดนกล่าวในการเปิดการประชุม ของคณะที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดยเมื่อถูกถามว่า AI เป็นอันตรายหรือไม่ ไบเดนกล่าวว่า "ยังคงต้องรอดู" แต่ "อาจเป็นได้" ว่า AI อาจเป็นอันตรายต่อสังคม นอกจากนี้ ไบเดนกล่าวว่า AI สามารถช่วยจัดการกับความท้าทายต่างๆ เช่น โรคภัยไข้เจ็บและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่นักพัฒนาเทคโนโลยีจะต้องจัดการกับ “ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสังคมของเรา ต่อเศรษฐกิจของเรา ต่อความมั่นคงของประเทศ”
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของเยาวชน แสดงให้เห็นถึงอันตรายของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถก่อความเสียหายได้ หากไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ ทั้งนี้ คำพูดของไบเดนเกิดขึ้นท่ามกลางการถกเถียงที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับวิธีการควบคุม AI โดยมีเสียงจากบางฝ่ายที่เรียกร้องให้หยุดการพัฒนาเทคโนโลยี AI ชั่วคราว จนกว่าจะมีการออกมาตรการป้องกันขึ้น
ในจดหมายเปิดผนึกที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำด้านเทคโนโลยีหลายคนรวมถึง อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้ง Tesla และ สตีฟ วอซเนียก ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple เรียกร้องให้มีการหยุดการพัฒนาและเปิดตัว AI ชั่วคราวเนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าว “มีความเสี่ยงอย่างลึกซึ้งต่อสังคมและมนุษยชาติ”
จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวมีออกมา เพื่อตอบสนองต่อการเปิดตัว GPT-4 ซึ่งเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีต่อจากแชทบอท ChatGPT ที่ปฏิวัติวงการ ทั้งนี้ OpenAI ซึ่งเป็นผู้พัฒนา GPT-4 ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า แพลตฟอร์มใหม่นี้มีความสามารถที่มี "ประสิทธิภาพระดับมนุษย์" ในบางพื้นที่ รวมถึงความสามารถผ่านการสอบเนติบัณฑิตด้วยคะแนน 10 อันดับแรกของผู้สมัคร
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิตาลีกลายเป็นชาติตะวันตกประเทศแรกที่แบน ChatGPT หลังจากที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการปกป้องข้อมูลกล่าวว่า ดูเหมือนว่าจะ "ไม่มีฐานทางกฎหมาย" สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมากของ ChatGPT โดยสมาชิกรัฐสภายุโรปของสหภาพยุโรป กำลังหารือเพื่อออกกฎระเบียบควบคุมการใช้เทคโนโลยีในกลุ่มชาติสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ
ที่มา: