ไม่พบผลการค้นหา
'สุดารัตน์' ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับฟังความเดือดร้อน 'ชาวประมง' ย้ำจุดยืน แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่จะใช้ 'สภา' เป็นอาวุธแก้ปัญหา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ความทุกข์ของพี่น้องประมงทุกท่านคือความทุกข์ของพวกเรา วันนี้พรรคเพื่อไทยจัดสัมมนาใหญ่ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป้าหมายสำคัญคือให้ ทีมเพื่อไทย ทุกภูมิภาค ได้มาแลกเปลี่ยน ถอดบทเรียนการทำงานในสภาและนอกสภาร่วมกัน รวมถึงวางแผนการทำงานให้พี่น้องประชาชนให้เกิดความต่อเนื่องในการแก้ปัญหาด้านต่างๆด้วยค่ะ มาประจวบคีรีขันธ์ เรามีทีมเพื่อไทยที่แข็งแกร่งที่นี่ คือคุณพิชิต ปลั่งศรีสกุล และส.ส.พรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ เจ้าของพื้นที่เขต 2 ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องให้เข้ามาเป็นปากเสียงแทนทุกคน"

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า สองท่านตั้งใจพาตนและทีมเพื่อไทยมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงและเกษตรกรจากหลายกลุ่มในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ธนาคารปูม้า อำเภอปราณบุรี โดยพี่น้องชาวประมง สะท้อนปัญหาต่างๆให้ตนและทีมพรรคเพื่อไทยฟังตั้งแต่ปัญหาแรงงาน โดยเฉพาะกฎหมาย ที่กำหนดให้เด็กอายุถึง 18 ปี จึงจะทำประมงในทะเลได้ กฎหมายที่ออกมาจึงไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนที่ทำอาชีพประมง ซึ่งถ่ายทอดกันรุ่นสู่รุ่น พ่อแม่พาลูกออกเรือเพื่อสอนการหาปลาตั้งแต่เด็ก แต่พอกฎหมายออกก็ทำตามวิธีชีวิตดั้งเดิมไม่ได้ แถมยังผลักภาระให้ชาวประมงต้องใช้แรงงานต่างชาติมากขึ้น อีกทั้ง ยังมี ปัญหาการให้เรือประมงหยุดวิ่ง ที่สะท้อนว่าผู้นำไม่ใส่ใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า พี่น้องชาวประมงบอกอีกว่าต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อประกอบอาชีพหลายด้านทั้งภาษีประมง และภาษีต่างๆอีก รวมถึง 7 อย่าง ชาวประมงถามตนว่ามีอาชีพไหนที่ต้องเสียภาษีถึง 7 อย่างแบบชาวประมงบ้าง ถือเป็นภาระของชาวประมงที่ต้องทุกข์ทนมาตลอด 5 ปี และต้องแบกรับภาระหนี้สินมหาศาล โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประมงโดยเฉพาะกลุ่มประมงพื้นบ้าน ถึงวันนี้ผู้มีอำนาจยังไม่สามารถตอบคำถามได้ว่ามีวิธีการดูแลและแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างไร แต่พรรคเพื่อไทยที่เชื่อว่าหากมีอำนาจในการเป็นรัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องประมงได้อย่างแน่นอน

"เพราะความทุกข์ของทุกท่านคือความทุกข์ของพวกเรา วันนี้ทีมเพื่อไทยจะทำงานเชิงรุกทุกพื้นที่ ด้วยการเข้าหาประชาชน ด้วยการมารับฟังปัญหาเพื่อนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านวิเคราะห์และทำงานร่วมกับส.ส.ในสภาเพื่อหาทางการแก้ไขทุกข์ของพี่น้องให้ได้มากที่สุด เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา หลายอาชีพต้องหมดเนื้อหมดตัว รัฐบาลที่มาจากการยึดก็เข้ามาเปลี่ยนนโยบายแบบไม่เข้าใจ ทำไม่เป็น เอากฎหมายมากำกับจนชาวบ้านทำมาหากินไม่ได้ คนทำมาหากินกลายเป็นเหมือนโจรผู้ร้าย ทั้งที่ต้องการประกอบอาชีพในการดูแลชาวบ้าน เราขอย้ำจุดยืนว่า แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่จะใช้อาวุธที่มีอยู่นั่นคือ สภาฯ แก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่เราไม่มีวันทอดทิ้งพี่น้องประชาชน จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างสุดความสามารถค่ะ"

ปัญหาความทุกข์ของพี่น้องชาวประมงและเกษตรกรอื่นๆ จะแก้ไม่ได้เลยถ้าใช้ "อำนาจบังคับ" จะแก้ได้ก็ต่อเมื่อใช้ "หัวใจ" ที่ห่วงใยทุกข์ร้อนของชาวประมงอย่างแท้จริง และใช้ "สมอง" อย่างชาญฉลาดในการคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ชาวประมง เพื่อไทยหัวใจคือประชาชน"