ไม่พบผลการค้นหา
ฝ่ายค้านไม่ขวางโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ใหม่ แต่จะไม่อยู่ในห้องประชุมและไม่ลงมติ หวั่นคำวินิจฉัยศาล รธน. ขัดกฎหมาย-กระทบการถ่วงดุลอำนาจ

การประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) โดยมีนายสุทิน คลังแสง เป็นประธาน มีมติยื่น 2 ญัตติ คือ พิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีเสียบบัตรแทนกัน และหารือถึงแนวทางป้องกันความปลอดภัยหลังเกิดเหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว มติของ 6 พรรคฝ่ายค้าน คือ ทุกคนจะมาลงชื่อเข้าประชุมเป็นองค์ประชุมตามปกติ แต่จะไม่อยู่ลงมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในวาระ 2-3 ครั้งที่ 2 เพื่อเปิดทางให้ฝ่ายรัฐบาลผ่านกฎหมายนี้ด้วยความรวดเร็ว อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านรอการแสดงความรับผิดชอบจาก ส.ส. คนที่เสียบบัตรแทนกันและรัฐบาล ซึ่งความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นเรื่องที่นักการเมืองทุกคนต้องมี ฝ่ายค้านขอเรียกร้องศรัทธาของพี่น้องประชาชนที่เสียหาย เพราะการทำงานในรัฐสภาโดยไร้ความรับผิดชอบ

ขณะที่นายสุทิน กล่าวว่า ถ้าพรรคฝ่ายค้านอยู่ก็จะต้องใช้เวลานาน เพราะฝ่ายค้านได้สงวนความเห็นและตั้งข้อสังเกตไว้จำนวนมาก ถ้าอยู่ร่วมลงมติก็จะต้องอภิปราย ทั้งนี้ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือในการผ่านร่าง พ.ร.บ. นี้มาโดยตลอด แต่รัฐบาลทำให้เสียของเอง ด้วยการเสียบบัตรแทนกัน จึงต้องปล่อยให้ฝ่ายรัฐบาลดำเนินการลงมติเอง และไม่ขอร่วมลงมติด้วย เนื่องจากมีความกังวลต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ชัดเจนว่าถูกหรือผิดตามกรอบหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนการพิจารณากฎหมายในวาระที่ 2 ไม่มีการอภิปรายจะผิดกฎหมายหรือไม่ ฝ่ายค้านไม่มีความเห็น

ทั้งนี้นายสุทิน กล่าวอีกว่าปกติการพิจารณากฎหมายต้องแล้วเสร็จภายใน 105 วัน แต่ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ฉบับนี้เกินเวลาแล้ว แต่ศาลก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อกังวล อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านยังไม่ยื่นเรื่องการเสียบบัตรแทนกันให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ เพราะรอดูการรับผิดชอบจากฝ่ายรัฐบาล แต่หากเห็นว่าจะมีการล้มมวย พรรคฝ่ายค้านก็จะไม่ยอมแน่นอน

รัฐสภา-_ฝ่ายค้าน เสียบบัตร งบประมาณ สมพงษ์ เพื่อไทย ปิยบุตร 200212_0005.jpgปิยบุตร สมพงษ์ สุทิน อนาคตใหม่ ฝ่ายค้าน สภา-_200212_0006_0.jpg


ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า โดยหลักการคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันกับทุกองค์กร จึงต้องมีการจำกัดอำนาจไว้ของศาลไว้ว่าจะทำเกิดกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไม่ได้ แต่คำวินิจฉัยขอฃศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ ตามมาตรา 148 ววรค 3 หากเห็นว่ากระบวนการตราพระราชบัญญัติไม่ชอบก็ให้กฎหมายตกไปทั้งฉบับ แต่ถ้าเห็นว่ากระบวนการตราพระราชบัญญัติชอบด้วยกฎหมายก็ให้ดำเนินการต่อ แต่กรณีการเสียบบัตรแทนกัน ศาลยืนยันว่าการเสียบบัตรแทนกันนั้นผิด แต่ให้มีการลงมติกันใหม่ ซึ่งวินิจฉัยเกินกว่ารัฐธรรมนูญกำหนด ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ศาลรัฐธรรมนูญจะอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ กระทบกับการถ่วงดุลอำนาจ พรรคฝ่ายค้านมีความกังวลในเรื่องนี้ จึงไม่สะดวกใจที่จะร่วมประชุม เพราะไม่ชัดเจนว่าปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่