ไม่พบผลการค้นหา
นักท่องเที่ยวไทยถูกเมียนมาคุมตัว หลังออกเรือเที่ยวตกปลา จนท. จ่อดำเนินคดีเข้าเมืองผิด กม. - กักตัวในสถานการณ์โควิด กอ.รมน. - โฆษก กต. เร่งประสาน

‘วอยซ์’ ได้รับการรายงานข่าวจาก อภิวัฒน์ ชอบทำดี นักท่องเที่ยวชาวไทย อายุ 36 ปี ซึ่งถูกกักตัวอยู่ที่ประเทศเมียนมา ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทย 22 คน รอความช่วยเหลือจากทางการไทย หลังถูกคุมตัวในเมียนมาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว

สืบเนื่องจากนักท่องเที่ยวทั้งหมดได้เช่าเรือท่องเที่ยวชื่อ ‘โพลาริสวัน’ พร้อมจ้างลูกเรือชาวเมียนมา 2 คน แล่นเรือออกไปตกปลาในทะเลบริเวณจังหวัดระนอง และถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.  ที่ผ่านมา

อภิวัฒน์ เล่าว่าตนเองและเพื่อนชาวไทยรวม 22 คน พร้อมด้วยลูกเรือชาวเมียนมา 2 คน ได้ลงเรือที่ท่าเรือในจังหวัดระนอง โดยตั้งใจจะแล่นเรือไปตกปลาใกล้หมู่เกาะสุรินทร์ เริ่มออกเดินทางจากฝั่งในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา และถึงจุดพักจอดเรือเพื่อตกปลาในช่วงเวลาประมาณ 17.00 

อภิวัฒน์ เล่าต่อว่า ประมาณ 18.00 น. เรือได้แล่นต่อไปในแนวน้ำลึกห่างจากฝั่งประมาณ 130 ไมล์ทะเล แต่พบปัญหาขัดข้องที่เครื่องปั่นไฟของเรือ กัปตันพยายามแก้ไขจนสามารถกลับมาแล่นได้อีกครั้งในช่วงเช้ามืดวันที่ 7 พ.ย. แต่กัปตันเรือแจ้งว่า ต้องกลับเข้าฝั่งเพื่อซ่อมเรือ จึงตัดสินใจแล่นเรือกลับฝั่งไทย แต่ระหว่างทางพบเรือรบ 567 ของเมียนมาแล่นเข้ามาใกล้ และแจ้งให้หยุดเพื่อตรวจเอกสาร

ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่เมียนมาตรวจไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงอุปกรณ์ตกปลาเพื่อการกีฬา ไม่พบอุปกรณ์ตกปลาเชิงพาณิชย์ เรือรบของเมียนมาได้ควบคุมเรือพวกตน โดยแจ้งกัปตันว่า “ไม่ใช่การจับกุม แต่ต้องการรักษาความปลอดภัย” จึงให้ ‘โพลาริสวัน’แล่นตามไปยังฐานทัพบนเกาะย่านเชือกของเมียนมา

เมียนมาจับตัว.jpg


เมียนมาจับตัว.jpg


เวลา 03.00 น. ของวันที่ 8 พ.ย. เรือถึงเกาะย่านเชือก นักท่องเที่ยวทั้งหมดรวมถึงลูกเรือถูกคุมตัวอยู่ที่เกาะย่านเชือกเป็นเวลา 6 วัน ก่อนจะถูกนำมายังเกาะสอง โดยเจ้าหน้าที่เมียนมาแจ้งว่า “ทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย” และจำเป็นต้องกักตัวเฝ้าระวังโควิด-19 เป็นเวลา 21 วัน  ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 4 ธ.ค. นี้ และอาจถูกส่งตัวต่อไปยังเรือนจำหรือสถานีตำรวจ ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด

“ตอนเจ้าหน้าที่เมียนมาขึ้นมาบนเรือ พวกผมยืนยันไปแล้วว่าให้ตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ไม่มีการขัดขืนใดๆ เราไม่มีเครื่องมือจับปลาเชิงพาณิชย์ พวกผมมีไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม บอกว่า ต้องประสานไปที่กรุงเนปิดอว์เพื่อดำเนินคดี ผมไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะถูกพาไปที่ไหน หรือจะติดต่อใครได้หรือไม่”

“ตอนนี้พวกเราถูกกักตัวในสถานกักโควิดเป็นโรงเรียนเก่าๆ อยู่ลำบาก นอนบนโต๊ะเก้าอี้ มีทางการไทยส่งฟูกมาช่วยได้ระดับนึง แต่ยังลำบากเรื่องอาหาร และห้องน้ำที่ไม่เหมาะกับคนสูงอายุ เคยประสานทางการไทยไปแล้วตั้งแต่ถูกจับใหม่ๆ ได้รับคำตอบว่าจะช่วย มีการตั้งกลุ่มไลน์กัน แต่ถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้า ตอนนี้ผ่านมา 26 วันแล้ว” อภิวัฒน์ เล่าเสริม

ทั้งนี้ทราบว่า คนที่มาทริปด้วยกันมีทั้งนักธุรกิจ ผู้รับเหมา พนักงานบริษัท กำลังได้รับผลกระทบมาก บางคนขาดงานหลายวัน อาจจะถูกไล่ออก ไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่ อภิวัฒน์ย้ำว่าอยากให้ทางการไทยรีบดำเนินการ

เมียนมาจับตัว.jpg


เมียนมาจับตัว.jpg


รายงานข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. ได้ประสานเจ้าหน้าที่เมียนมาเพื่อจัดส่งของใช้จำเป็น และอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ไปให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือทั้งหมด 24 คน รวมทั้งประสานทำความเข้าใจกับญาติแล้ว ขณะที่ โชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าฯ ระนอง พยายามประสานทางการเมียนมาให้ย้ายลูกเรือทั้งหมดไปพักในโรงแรมเพื่อความสะดวกมากขึ้น แต่คำร้องขอดังกล่าวไม่เป็นผล

พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผบ.กองพลทหารราบที่​ 5 เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางการไทยพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับ เราได้ดำเนินการในฐานะที่ TBC (คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา) แต่เจ้าหน้าที่เมียนมาพยายามส่งเรื่องไปยังเนปิดอว์ ตนเดินทางไปที่ระนองและพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่เมียนมา แต่ได้รับคำตอบว่าอยู่ที่รัฐบาลกลาง

“ตอนนี้ถือว่าพ้นอำนาจของเราไปแล้ว ต้องประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ให้ตั้งทนายเพื่อไปขอประกันตัว ที่ผ่านมาเราพยายามประสานระดับท้องถิ่น แต่เขาบอกว่าต้องดำเนินคดี เลยได้แต่ส่งของจำเป็นที่เขาต้องการไปช่วย” พล.ต.ศานติ ระบุ 

ขณะที่ ธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวไทยว่า เบื่องต้นกรณีหากเรือรุกล้ำเขตแดนกัน จะต้องใช้กลไกพูดคุยกันก่อนที่จะดำเนินคดี ขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งช่วยติดตามและให้ความช่วยเหลืออยู่