นพ.รัฐพล เตรียมวิชานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยมี ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน รับทราบความคืบหน้าการจัดหายา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ในการจัดหา “วัคซีนพิษสุนัขบ้า” เพื่อดูแลประชาชนให้เข้าถึงการรักษา ซึ่งเป็นไปตามการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการจัดทำแผนความต้องการยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โครงการพิเศษ ที่มี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
ทั้งนี้ในส่วนการจัดหาวัคซีนพิษสุนัขบ้า ตามที่คณะอนุกรรมการฯ ได้เห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดซื้อหาวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน 1,500,000 โด๊ส งบประมาณ 388.5 ล้านบาท จากบริษัทผู้จำหน่ายในประเทศไทย จากผลการต่อรองราคาวัคซีนพิษสุนัขบ้าที่มีตัวแทนคณะอนุกรรมการฯ เข้าร่วม สามารถต่อรองได้ที่ราคา 354.7 ล้านบาท ถูกกว่าที่งบประมาณตั้งไว้ 33.79 ล้านบาท โดยในส่วนของการบริการวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าในช่วงเดือนตุลาคม 2561 – 31 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงก่อนการจัดหาวัคซีน บอร์ด สปสช.ได้เห็นชอบจ่ายชดเชยบริการตามผลงานที่ให้บริการฉีดไป
“การจัดซื้อยาที่จำเป็นต่อการเข้าถึงรวมในระดับประเทศ ส่งผลให้สามารถจัดซื้อยาได้ในราคาลดลง ไม่เพียงแต่เฉพาะราคาเท่านั้นที่เป็นเกณฑ์การพิจารณาจัดซื้อหา แต่คณะอนุกรรมการฯ ได้คำนึงถึงคุณภาพด้วย นอกจากทำให้ผู้ป่วยภายใต้ระบบบัตรทองเข้าถึงยาราคาแพงที่จำเป็นแล้ว ยังทำให้เกิดความมั่นใจที่จะมียาภายใต้การจัดหารวมระดับประเทศ เป็นความมั่นคงของระบบยาและวัคซีนที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพของประชาชน” ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. กล่าว
นพ.รัฐพล กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดหาซื้อวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากวัคซีนมะเร็งปากมดลูกอยู่ในภาวะขาดแคลนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ขณะนี้มีบริษัทผลิตวัคซีนหลายแห่งอยู่ระหว่างการเตรียมผลิตออกมาจำหน่ายเพิ่มเติมแล้ว คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี จะส่งผลให้สถานการณ์การขาดแคลนวัคซีนดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสามารถจัดซื้อวัคซีนมะเร็งปากมดลูกเพื่อดำเนินการด้านสิทธิประโยชน์นี้ต่อเนื่องได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :