นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน กล่าวระหว่างการแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า คำสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายจะขยายไปอีก 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 28 เม.ย. โดยเป็นการตัดสินใจตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ขณะที่การขยายคำสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายจะทำให้บุคลากรด้านสาธารณสุขสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในชุมชนได้ และยังสอดคล้องกับมุมมองขององค์การอนามัยโลกที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ อย่าเพิ่งยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์โดยทันที
มาเลเซียประกาศมาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา เดิมคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ถึง 31 มี.ค.แต่ก็ได้มีการขยายเวลาออกมาแล้วรอบหนึ่งจนถึงวันที่ 14 เม.ย.ซึ่งประชาชนจะออกจากบ้านได้ก็ต่อเมื่อต้องไปซื้อของกินของใช้หรือบริการที่จำเป็น โดยล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อสะสมในมาเลเซียอยู่ที่ 4,336 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 68 ราย
ผู้นำมาเลเซียยังระบุว่า ภาคเศรษฐกิจหลายภาคส่วนจะทยอยเปิดทำการทีละขั้น โดยจะมีการประกาศรายชื่ออุตสาหกรรมที่จะได้เปิดทำการอีกครั้งเร็วๆ นี้ ขณะที่คำสั่งจำกัดการเคลื่อนย้ายได้ช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควบคุมการแพร่ของเชื้อ แต่ก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมเผชิญกับสถานการณ์นี้ไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะสามารถทำให้แน่ใจได้ว่าการระบาดถูกควบคุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์
คำสั่งจำกัดการเคลื่อนย้ายของมาเลเซียนั้นครอบคลุมทั้งการห้ามรวมกลุ่มทั้งในกิจกรรมทางศาสนา กีฬา สังคมและงานทางวัฒนธรรม สถานที่ทางศาสนาและธุรกิจต่างๆ ไปจนถึงโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้ถูกปิด แต่ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และร้านสะดวกซื้อยังคงเปิดให้บริการอยู่ เช่นเดียวกับบริการจำเป็นต่างๆ เช่น สาธารณูปโภค ขนส่ง ธนาคาร บริการสุขภาพและความปลอดภัยที่ยังคงเปิดทำการ
กรุงจาการ์ตาเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนหลัง
ส่วนอีกประเทศในอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย วันนี้ก็ได้เริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในพื้นที่กรุงจาการ์ตาเป็นเวลา 14 วัน เพื่อจำกัดการระบาดของโควิด-19 โดยถือเป็นเมืองแรกของอินโดนีเซียที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนหลังคำร้องขอได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมาตรการล็อกดาวน์กรุงจาการ์ตาครอบคลุมทั้งการห้ามรวมตัวมากกว่า 5 คน ปิดโรงเรียนทั้งหมด รวมถึงที่ทำงานและสถานที่สาธารณะส่วนใหญ่ตั้งแต่ศูนย์กีฬาไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ ลดเวลาให้บริการขนส่งสาธารณะ แต่ร้านอาหารยังคงเปิดโดยให้บริการซื้อกลับบ้านเท่านั้น ส่วนบริการจำเป็นอย่างบริการด้านสุขภาพ พลังงาน โลจิสติกส์และการเงินยังคงดำเนินการอยู่ โดยนายอานิส บาสดาวี ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาระบุว่า ทั้งตำรวจและทหารจะทำให้แน่ใจว่าประชาชนจะปฏิบัติตามกฎและจะเพิ่มการลาดตระเวนอย่างเข้มข้นทั่วเมือง
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเดือนที่ผ่านมาในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น แต่ผู้นำอินโดนีเซียก็ต่อต้านเสียงเรียกร้องให้ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศด้วยความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลอินโดนีเซียเผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักต่อการจัดการวิกฤตครั้งนี้และถูกตั้งคำถามถึงจำนวนที่แท้จริงของผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ตัวเลขทางการอินโดนีเซียระบุว่ามีติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 3,512 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 306 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สูงที่สุดในเอเชียนอกประเทศจีน แต่ขณะเดียวกันอินโดนีเซียกลับอยู่ในหมู่ประเทศที่มีอัตราการตรวจหาเชื้อต่ำที่สุดในโลก
อ้างอิง The Straits Times/CNA/The Jakarta Post