ไม่พบผลการค้นหา
จีนได้ปิดบัญชีผู้ใช้บนโซเชียลมีเดียไปแล้วนับ 1,000 บัญชีผู้ใช้ โดยบางบัญชีผู้ใช้มีผู้ติดตามนับล้าน ซึ่งแต่ละบัญชีผู้ใช้ที่ถูกปิดต่างเป็นบัญชีผู้ใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการรับมือกับการระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลจีนในระลอกล่าสุดนี้

เว่อป๋อ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนเปิดเผยว่า ทางแพลตฟอร์มได้ระงับหรือแบนบัญชีผู้ใช้จากเหตุผลที่แพลตฟอร์มอ้างว่าเป็นการกล่าวโจมตีเชิงบุคคล ต่อผู้เชี่ยยวชาญด้านโควิด-19 ของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ดี เว่ยป๋อไม่ได้เปิดเผยถึงต้นโพสต์ที่ถูกอ้างถึงจากการระงับบัญชีผู้ใช้

จีนเพิ่งยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของตัวเองไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จีนจะพบกับตัวเลขการติดเชื้อและการเสียชีวิตจากระบาดโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นในระลอกใหญ่ระลอกใหม่นี้ 

การวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์จีนส่วนใหญ่ มุ่งเน้นไปที่การบังคับใช้กฎระเบียบการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวด รวมถึงการล็อกดาวน์ที่กำหนดให้ประชาชนต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่โพสต์บนโซเชียลมีเดียจีนเมื่อเร็วๆ นี้ เริ่มพุ่งเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ไปที่ผู้เชี่ยวชาญจีน ที่ออกมาปกป้องการตัดสินใจอย่างกระทันหันของรัฐบาล ในการยกเลิกข้อจำกัดโควิด-19 ทั้งๆ ที่พวกเขาเพิ่งสนับสนุนข้อจำกัดดังกล่าวเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า

เว่ยป๋อระบุว่าแพลตฟอร์มตรวจพบการละเมิดกฎชุมชนกว่า 13,000 กรณี รวมถึงการกล่าวโจมตีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข โดยแพลตฟอร์มได้ทำการระงับบัญชีทั้งแบบชั่วคราวและถาวรไปแล้ว 1,120 บัญชีผู้ใช้

เว่อป๋อระบุในแถลงการณ์ว่า “การดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ที่มีมุมมองแตกต่าง หรือเผยแพร่การโจมตีส่วนบุคคล และมุมมองที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งนั้น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” ก่อนกล่าวเสริมว่า “การเคลื่อนไหวใดๆ ที่ทำลายชุมชน (เว่อป๋อ) จะได้รับการจัดการอย่างเด็ดขาด”

นับตั้งแต่ทางการจีนประกาศยกเลิกข้อบังคับส่วนใหญ่ในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังจากการประท้วงต่อต้านนโยบายครั้งประวัติศาสตร์โดยประชาชนทั่วทั้งประเทศ มีรายงานว่าโรงพยาบาลและเตาเผาศพไม่สามารถรองรับผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตได้มากพอ อย่างไรก็ดี จีนได้หยุดเผยแพร่ข้อมูลผู้ติดเชื้อรายวัน และประกาศยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพียง 22 รายตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยทางการจีนใช้เกณฑ์การจำกัดความผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เข้มงวดของตัวเอง ขัดแย้งกันกับเกณฑ์ที่ได้รับการแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO)

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ม.ค.) จีนเข้าสู่วันแรกของช่วงเวลา 40 วันก่อนเทศกาลตรุษจีน หรือปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งจะส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายไปมาของประชากรครั้งใหญ่ในจีน และนับเป็นการเดินทางไปมาครั้งใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจีนคาดว่า จะผู้โดยสารสัญจรไปมาทั้วประเทศมากกว่า 2 พันล้านคนในช่วง 40 วันข้างหน้า เพิ่มขึ้น 99.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และแตะ 70% ของจำนวนการที่เดินทางสัญจรไปมาในช่วงตรุษจีนของปี 2562

ประเด็นดังกล่าวนำไปสู่ความกังวลอย่างกว้างขวางว่า เทศกาลตรุษจีนในจีนอาจทำให้จีนมีการพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทที่มีเตียงผู้ป่วยวิกฤต ICU และเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยใหม่ โดยตั้งแต่วันนี้ (8 ม.ค.) เป็นต้นไป จีนได้ประกาศเลิกข้อกำหนดสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศที่ต้องกักตัว ซึ่งหมายความว่าชาวจีนจำนวนมากจะสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-asia-china-64198313?fbclid=IwAR1qaRfSJElX6U70hUG49B0G8GL-YtXJR_-4N-WSjV3n1bei8Sh189OK2ns