ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สุรินทร์ และ จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี แถลงเรื่อง การจัดซื้อเรือดำน้ำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยยุทธพงศ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงกว่ารอบที่แล้ว ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจจากรัฐบาล ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันตนก็ยังแคลงใจต่อการบริหารงบประมาณ เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกมาเปรยว่าต้องประหยัด
แต่กลับเตรียมผลักดันโครงการแจกเงิน ทั้งที่ยังคิดไม่ตกว่า จะนำเงินมาจากส่วนไหน รวมถึงปัญหาเรื่องบ่อนการพนัน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ทำการแถลงเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 เกี่ยวกับงบประมาณปี 2565 จำนวนกว่า 3 ล้านล้านบาท ลดจากงบฯปีที่แล้วประมาณ 180,000,000,000 โดยเป็นส่วนของงบฯลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องผิดวิสัย เพราะขณะนี้ภาคเอกชนกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้น งบฯลงทุนของรัฐบาลควรจะเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นเงินหมุนเวียน
ส่วนโครงการมอบเงินเยียวยาคนละ 3,500 บาทเป็นเวลา 2 เดือน คิดเป็นเงินกว่า 210,000,000,000 บาท ตนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นจำนวนน้อยกว่ารอบแล้วที่แล้ว ทั้งที่การระบาดรอบนี้รุนแรงกว่า ซ้ำยังมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือในส่วนนี้เฉพาะ 28 จังหวัดเท่านั้น ตนจึงขอวิงวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม
ข้องใจนายกฯไม่แตะงบฯ กองทัพ
อย่างไรก็ตาม ตนเคลือบแคลงใจว่า เหตุใดพล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่เคยแตะต้องหรือพูดถึงงบกองทัพ เพราะปรากฏว่างบของกองทัพเรือสำหรับซื้อเรือดำน้ำกลับยังอยู่ ไม่ได้มีการยกเลิก โดยมีการขอซื้อเรือดำน้ำด้วยงบฯปี 2565 จากประเทศจีนจำนวน 2 ลำ มูลค่า 22,500,000,000 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้กองทัพเรือเคยออกประกาศแจ้งคณะกรรมาธิการฯเรื่องปรับลดงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเมื่อปี 2564 เเต่ดึงดันที่จะซื้อ ทั้งที่ปีนี้ภายใต้งบฯปี 2565 เกิดการระบาดรุนแรงกว่า ซึ่งตนอยากขอให้ตัดงบประมาณส่วนนี้ออก เนื่องด้วยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อเรือดำน้ำ ควรเอางบไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากผลกระทบโควิด-19 ก่อนจะดีกว่า
นอกจากนี้ ทางกองทัพบก ยังใช้งบประมาณที่จัดตั้งใหม่ในปีนี้ โดยมีโครงการใหญ่ๆ อีกหลายโครงการ อาทิ โครงการจัดการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี (ระยะที่ 1) 4,226,127,500 บาท โครงการจัดหารถยานเกราะ (ระยะที่ 4) 1,026,000,000 บาท โครงการจัดหายานเกราะล้อเพื่อเสริมสร้าง กรม.ร.รูปแบบใหม่ (ระยะที่ 2 ห้วงที่ 2) 900,000,000 และอื่นๆ รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 20,635,615,700 บาท
ส่วนกองทัพอากาศ เช่น โครงการจัดหาเครื่องบินโจมตีเบา 4,500,000,000 บาท โครงการสร้างคลังอาวุธและจัดหาอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิดวิกฤต ของกองทัพอากาศ (ระยะที่2) 900,000,000 บาท โครงการพัฒนาการและปฏิบัติการในห้วงอวกาศ 1,470,000,000 บาท และโครงการอื่นๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25,020,735,900 บาท
ครูมานิตย์ ยังกล่าวถึงเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 2 ว่า ส่วนใหญ่การติดเชื้อมาจากบ่อนการพนัน และมีแนวโน้มว่าปราบปรามยาก เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ ออกมายอมรับเองว่า ไม่มีศักยภาพเพียงพอ ทำให้ต้องวิตกมากกว่าปัญหาแรงงานเถื่อน เพราะยังควบคุมพื้นที่ได้ ส่วนจะให้หวังพึ่งพา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เจ้าตัวก็ดันตอบว่าไม่รู้ไม่เห็น ก่อนมายอมรับว่ามีบ่อนในภายหลัง ซึ่งตนเชื่อว่าจะแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ไม่ได้ถ้ายังมีบ่อนเถื่อนอยู่ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด ส่วนการตั้งคณะกรรมาธิการฯ เเค่ลดกระแสให้เบาลง ตนมองว่าไม่เกิดประโยชน์เพราะไม่อาจทราบได้ว่าคณะกรรมาธิการชุดนี้ จะมีศักยภาพมากน้อยหรือทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าประสงค์ได้หรือไม่
ครูมานิตย์ เชื่อว่า ไม่มีทางที่บ่อนจะรอดหูรอดตาฝ่ายความมั่นคงไปได้ อาจเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนได้เสียกับการกระทำละเมิดกฏหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว สิ่งเหล่านี้จะผ่านพ้นไปได้ ต้องให้ผู้มีอิทธิพลตัวจริงคือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ดำเนินการด้วยตัวเอง
'ยุทธพงศ์' จองกฐิน 'อนุพงษ์' ซักฟอกบีทีเอสสายสีเขียว
นอกจากนี้ ยังมีการแถลงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรฐบาลโดยยุทธพงศ์กล่าวเพิ่มเติมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ที่ผ่านมานั้นพรรคเพื่อไทยได้สร้างแรงกระเพื่อมด้วยการจุดประกายให้ตื่นรู้หลายเรื่องอาทิ บ้านพักข้าราชการของนายกฯ และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งกรณีอย่างหลังถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ถึงตอนนี้นี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการสร้างต่อ จนเกิดผลกระทบไปยังสายอื่นๆ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ และลุกลามไปถึงสายสีชมพู ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี ที่ล่าสุดคณะกรรมการถอดโครงการออกชั่วคราวไปเมื่อวันอังคารที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา
ในขณะที่กรุงเทพมหานครเองก็ยังเป็นหนี้บริษัทบีทีเอสประมาณ 9 พันล้านบาท ตนจึงอยากถามหาความรับผิดชอบไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยที่ดูแลครอบคลุมกรุงเทพมหานครว่าจะช่วยเหลือประชาชนที่ต้องแบกรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าในอัตราสูงสุดที่ 158 บาท ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโควิดอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้เรื่องรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวจะต้องเข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม