หากดูท่าทีพี่น้อง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ก็เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ติดหล่ม 8 ปี เห็นได้จากการที่ ‘พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค’ ที่ปรึกษานายกฯ ไปตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคฯ เพื่อเป็น ‘ฐานที่มั่นสำรอง’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้น หลังมีการอ้างชื่อคนใกล้ชิด ‘บิ๊กป้อม’ อักษรย่อ “พ.” อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ ‘ล้มตู่ ชูป้อม’ ตั้งแต่ศึกซักฟอก ปีที่แล้ว ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไหวตัวทัน

แต่สิ่งที่ พล.อ.ประวิตร ดูเหมือนจะหลุดหรือตั้งใจพูดเป็นนัย หลังพูดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯอีก 2 ปี กลายเป็นเรื่องขึ้นมา

แม้ตอนหลัง พล.อ.ประวิตร จะท่องคาถา “ไม่รู้” ตามฟอร์ม แต่เมื่อทิ้งบอมมบ์มาแล้ว ก็ต้องจับตาดูกัน เพราะมาพร้อมสถานการณ์ในสภา ที่สะพัดข่าว ‘ดีลลึกลับ’ ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ในการไม่เป็นองค์ประชุมร่วมของรัฐสภา

เพื่อทำให้ ‘รัฐสภาล่ม’ นำมาสู่การคว่ำร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. สูตรหาร 500 เพื่อไปใช้สูตรหาร 100 แทน ซึ่งถูกมองว่าเป็นสูตรที่เข้าทางพรรคเพื่อไทย ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็เคยยอมรับว่า ‘เป็นรอง’ พรรคเพื่อไทยในเรื่องกระแสพรรค

ดังนั้นปฏิบัติการ ‘เทสภาฯ’ ของทั้งสองพรรค จึงทำให้ถูกมองเป็นเรื่อง ‘ดีลลึกลับ’ ที่มาพร้อมห่วงเวลาบีบหัวใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จะหลุดจากเก้าอี้นายกฯ หรือไม่

หรือแม้แต่การที่ พล.อ.ประวิตร จะขึ้นเป็น ‘นายกฯคนนอก’ ในอนาคตหรือไม่ โดยการจับมือ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ผสม ส.ส.ฝ่ายค้าน บางส่วน รวมทั้ง ส.ว.สายป่ารอยต่อ ในการดัน พล.อ.ประวิตร ขึ้นมา ทำให้ในเวลานี้ พล.อ.ประวิตร ถูกเทียบคู่เป็นแคนดิเดตนายกฯ กับ ‘เสี่ยหนู’อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะเห็นได้ว่าในระยะหลังมานี้ ‘อนุทิน’ มีท่าทีแบะท่าพร้อมเป็น นายกฯ มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สงวนท่าทีเหมือนก่อนหน้านี้

แต่กลับมีกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จะชิง ‘ยุบสภา’ ก่อนถึง 23 ส.ค.นี้ หรือไม่ เพื่อเป็น ‘นายกฯรักษาการ’ ต่อไป แต่ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เมื่อยุบสภาแล้ว ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ซึ่งก็จะครบกำหนดก่อนการประชุมเอเปค พ.ย.นี้

แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ชัดเจนว่าจะอยู่จัดเอเปค อีกทั้งในขณะนี้ก็ไม่มีปัจจัยใด ให้ผลักสถานการณ์ไปสู่การยุบสภา โดยเฉพาะสถานการณ์ในสภา ที่ฝั่งรัฐบาลยังคุมได้ ไม่ได้มีเหตุวุ่นวาย-ชุลมุน แม้จะมีเหตุการณ์สภา

อีกทั้งการยุบสภาก็จะทำให้เป็น ‘รัฐบาลรักษาการ’ ก็จะไม่มี ‘อำนาจเต็ม’ ในการบริหารราชการแผ่นดิน

อย่าลืมว่าในขณะนี้การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร-ตำรวจ รวมทั้ง ‘โผมหาดไทย’ ก็ยังไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งการพิจารณาร่่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ก็ยังไม่สิ้นสุดวาระ 2-3 เตรียมเข้าสภาฯ พิจารณา 17-19 ส.ค.นี้ แต่ก็เป็นช่วงเวลารอยต่อพอดี หาก พล.อ.ประยุทธ์ ชิงยุบสภา หลังการแต่งตั้งโยกย้ายเสร็จ และงบฯ ปี 2566 ผ่านแล้ว

ทว่าจุดตัดสำคัญอยู่ที่ ร่่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ประกาศใช้ ทั้งหมดนี้จะนำมาซึ่งเหตุการณ์ ‘สุญญากาศ’ ทางการเมือง จะยิ่งทำให้สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ยากยิ่งขึ้น

อีกทั้ง ‘วิษณุ เครืองาม’ รองนายกฯ ก็ออกมาฟันธงแล้วว่า ตั้งแต่ 24 ส.ค. เป็นต้นไป พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีอำนาจเต็ม จนกว่าศาลจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยิ่งตอกย้ำว่าไม่ต้องชิง ‘ยุบสภา’ ยืดอายุวาระนายกฯ

ดังนั้นโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะยุบสภาจึงยังไม่มี ‘เค้าลาง-สัญญาณ’ ใดๆ ยังคงเป็น ‘กระแส’ ที่ถูกปลุกขึ้นมา ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ปมวาระ 8 ปี ที่สุดท้ายแล้วจะจบอย่างไร

เพราะลึกๆแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังสู้ต่อ อีกประมาณ 2 ปี หลังเคยพูดเป็นนัยเมื่อครั้งพูดถึงหลักการ ‘3 แกน สร้างอนาคต’ ว่าผลงานผลิดอกออกผลใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่ตรงกับ พล.อ.ประวิตร พูดออกมาเช่นกัน

ดังนั้นพี่น้อง ‘3ป.’ มี ‘คำตอบ’ อยู่แล้วถึงอนาคต แม้จะพูดว่า ‘มาด้วยกัน ไปด้วยกัน’ แต่ความเป็นจริงแล้ว อาจต้อง ‘ผ่องถ่าย’ ไปทีละคน เพื่อช่วยกัน ‘มองหน้า ระวังหลัง’ ไปพร้อมกัน จึงมีการมองสูตรคนละ 2 ปีขึ้นมา คือ พล.อ.ประยุทธ์ 2 ปี พล.อ.ประวิตร 2 ปี

แต่การพูดคุยระหว่าง ‘3ป.‘ ในงานวันเกิด พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ 30 นาที แต่ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหมือนทุกปี ที่รีบเดินขึ้นรถกลับเข้าทำเนียบฯ ส่วน พล.อ.ประวิตร เดินแกะแขน พล.อ.อนุพงษ์ ออกมา พร้อมย้ำว่า 3ป. ไม่มีทะเลาะกัน ผิดปกติ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องกอดพี่น้อง 3ป. โชว์สื่อแล้ว เพราะทุกปี พล.อ.ประยุทธ์ จะมีภาพ พล.อ.ประวิตร เดินออกมาส่งถึงรถด้วย ในส่วน พล.อ.อนุพงษ์ ก็ยืนกุมมือข้าง พล.อ.ประวิตร ตามแบบฉบับที่ตัวเองถนัด

ในบรรดาพี่น้อง 3ป. แม้บางเรื่องจะคุยจบไปแล้ว แต่ก็มีบางเรื่องยังพูดคุยไม่จบ และยังไปคนละทาง โดยเฉพาะเรื่องอนาคตที่ทั้ง 3ป. จะเอาอย่างไรต่อ แม้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะพูดชัดครั้งแรกๆเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะไม่คิดรับไม่ต่อเป็นนายกฯต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ แต่ท่าทีของพล.อ.ประวิตร กลับยังคงสู้ต่อ

"โอ้ย คงไม่ใช่หรอกมั้ง ไม่ใช่แน่นอน บอกตรงๆ คงไม่ใช่" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ภายใต้สถานการณ์ที่ 3ป. แตกเป็น 2 ขั้ว ระหว่าง ‘ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ ที่คนใกล้ชิด ‘แต่ละ ป.’ ยังคงทำสงครามต่อกัน ทำให้สัมพันธ์ 3ป. ระส่ำไปด้วย หลายเรื่องยังคงไม่ได้ข้อสรุป ทำให้เกิดสุญญากาศภายใน ‘3ป.’ ที่ต้องแก้ปัญหา-เคลียร์กันเป็นช็อตๆไป หรือสุดท้ายแล้วจะทางใครทางมันจริงๆ