นายชัชชาย ทองสว่าง เกษตรกรจาก ต.ฆะมัง (คะ-มัง) อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร หันมาเพาะปลูกต้นอินทผลัม 2 สายพันธุ์ สำหรับรับประทานลูกสด จนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
พืชชนิดนี้มีลักษณะเป็นผลทรงกลมรี ออกเป็นช่อ ความยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีรสหวานฉ่ำ สามารถรับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก
สายพันธุ์บาฮี จะมีลักษณะเป็นผลทรงกลมรีมีสีเหลืองไปจนถึงสีส้ม ขณะที่สายพันธุ์อัมเดสมาฮาม มีลักษณะเป็นผลทรงกลมรียาว สีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม
ผลอินทผลัมสุก สามารถนำไปตากแห้งเก็บไว้รับประทานได้หลายปี และจะมีรสชาติหวานจัด เหมือนกับการนำไปเชื่อมด้วยน้ำตาล
นายชัชชาย เล่าว่า เดิมมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างสนใจในการเพาะปลูกต้นอินทผลัมสำหรับเอาไว้รับประทานลูกสด โดยเริ่มทดลองปลูกในบริเวณพื้นที่บ้าน 2 สายพันธุ์คือพันธุ์บาฮี และสายพันธุ์อัมเดสมาฮามจำนวน 20 ต้น
เมื่อเริ่มเพาะปลูกได้ผลผลิตดีจึงขยายพื้นที่โดยใช้พื้นที่ที่เคยทำนากว่า 20 ไร่หันมาปลูกต้นอินทผลัม โดยสั่งซื้อสายพันธุ์มาจากต่างประเทศ สายพันธุ์บาฮีสั่งซื้อมาในราคาต้นละ 3,000 บาทและสายพันธุ์อัมเดสมาฮาม ราคาต้นละ 8,000 บาท
การเพาะปลูกจะใช้เวลา 4 ปีถึงจะได้เก็บผลผลิต ราคาขายลูกอินทผลัมพันธุ์บาฮีจำหน่ายกิโลกรัมละ 400-500 บาท ส่วนสายพันธุ์อัมเดสมาฮามจำหน่ายกิโลกรัมละ 800-1,000 บาท
ผู้สนใจสามารถเดินเที่ยวชมและชิมผลของอินทผลัมสดๆ จากต้นและเลือกตัดช่อของอินทผลัมสดๆ ตามใจชอบ โดยติดต่อได้ที่เบอร์ 081-9882138
สำหรับอินทผลัม จัดเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีหลากหลายสายพันธุ์ เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในเขตที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งอย่างทะเลทราย โดยอินทผลัมมีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง ประเทศที่ผลิตรายใหญ่ได้แก่ อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อาหรับ แอลจีเรีย
ผลไม้ประเภทนี้นอกจากให้พลังงานสูงแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์เยอะมาก ที่สำคัญไม่มีคอเลสเตอรอล และมีไขมันต่ำ อุดมไปด้วยวิตามินที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 รวมทั้งบี 16 วิตามินเค แคลเซียม เหล็ก ซัลเฟอร์ ธาตุฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แล้วก็แมงกานีส เป็นต้น
นอกจากนั้นยังพบสารอาหารจำพวกน้ำมันโวลาไทล์ ไฟเบอร์ แล้วเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ลดการเกิดโรคเรื้องรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ และช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง