แม้ประเทศไทยจะมีคอนเสิร์ตเกาหลีแทบทุกเดือน แต่เคยสังเกตกันมั้ยครับว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นศิลปินชายเสียมากกว่า (ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือมาเป็นกลุ่มก็ตาม) จริงอยู่ว่าวงอย่าง BLACKPINK, TWICE หรือ IZ*ONE อาจจะขายดิบดีถึงขั้นโซลด์เอาต์ แต่นั่นก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น ผู้เขียนมีเพื่อนจำนวนหนึ่งที่ทำงานด้านจัดคอนเสิร์ต เวลาจะเอาวงเคป๊อปหญิงมาเล่นที่ไทยแต่ละทีต้องคิดแล้วคิดอีกกลัวว่าจะขายไม่ดี อย่างคอนเสิร์ตวง G-Friend ที่เพิ่งขายบัตรไปก็อาการไม่สู้ดีนัก แม้จะจัดในสถานที่ความจุราวสองพันกว่าคนเท่านั้น

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? อาจเป็นเพราะแฟนเพลงเกาหลีส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง สังเกตง่ายๆ ครับ เวลาผมไปคอนเสิร์ตเกาหลีทีไร ห้องน้ำหญิงจะคิวยาวเหยียดจนพวกเธอต้องมาขอใช้ห้องน้ำชาย (บางทีก็แทบจะยึดห้องน้ำชายไปเลย) แฟนเพลงผู้หญิงก็ย่อมนิยมศิลปินชายมากกว่า ดังนั้นโปรโมเตอร์ส่วนใหญ่จึงอิมพอร์ตหนุ่มๆ เคป๊อปมาแบบรัวๆ ส่วนศิลปินหญิงนี่นานๆ จะมีมาสักที

คอนเสิร์ตของเกิร์ลกรุ๊ปว่าขายยากแล้ว แต่ที่ยากแบบปราบเซียนที่สุดคือคอนเสิร์ตของศิลปินหญิงเดี่ยว เป็นอะไรที่พวกผู้จัดฝั่งเคป๊อปมักจะหลีกเลี่ยงเพราะโอกาสเจ็บตัวสูงมาก ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่แค่เรื่องคอนเสิร์ต หากมองภาพใหญ่ของวงการเพลงเกาหลี ศิลปินเดี่ยวฝั่งผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จนี่มีแทบนับรายได้ หัวใจสำคัญคือเธอต้องมีจุดแข็งอะไรบางอย่างที่โดดเด่นกว่าคนอื่น เช่น แทยอนวง Girls’ Generation ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียง, ไอยูที่นำเสนอความน่ารักสดใสเป็นหลัก หรือฮยอนอาอดีต 4Minute ที่ขายความเซ็กซี่แบบแรงๆ ไปเลย

ศิลปินหญิงเกาหลีที่มาแรงมากคนหนึ่งในช่วงสองปีมานี้ก็คือ ซอนมี (Sunmi) อดีตสมาชิกวง Wonder Girls  แม้เธอจะเคยออกงานเดี่ยวเมื่อช่วงปี 2013-2014 แต่ก็ได้เสียงตอบรับแบบกลางๆ

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2017 กับซิงเกิ้ล Gashina ที่ดังระเบิดเปรี้ยงปร้าง และหลังจากนั้นซอนมีก็ผลิตงานที่ดีอย่างต่อเนื่องจาก อาทิ Siren และ Noir ซึ่งหลายคนทักว่าเธอเปลี่ยนไปราวคนละคนกับสมัยก่อน เธอเซ็กซี่ขึ้น ฉูดฉาดขึ้น บ้างก็ว่าเธอหน้าเปลี่ยน ทรวดทรงเปลี่ยน แต่มันคงไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ถ้าการเปลี่ยนแปลงนี้จะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น

ซอนมีมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงทั้งเนื้อเพลงและทำนอง ล่าสุดเธอยังร่วมสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดกับซิงเกิ้ล Noir ด้วย โดยซอนมีโพสต์อะไรประหลาดๆ ในโซเชียลมีเดียของเธออย่างต่อเนื่อง จนแฟนเพลงเป็นห่วงว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า แต่แท้จริงแล้วมันเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกับเพลง Noir ที่ว่าถึงโลกโซเชียลมีเดียที่เข้ามากลืนกินชีวิตของผู้คน

• ชาแนล DKDKTV วิเคราะห์มิวสิกวิดีโอเพลง Noir ไว้ได้ดีมาก ลองดูกันที่นี่ครับ

ช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมของปีนี้ ซอนมีเดินสายทัวร์ทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ผู้จัดบางรายเคยมาปรึกษาผู้เขียนเหมือนกันว่าควรเอาเธอมาโชว์ที่ไทยหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยง เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เขียนเลยต้องลงทุนบินไปยังเมืองไทเปเพื่อดูคอนเสิร์ตของซอนมีโดยเฉพาะ ซึ่งที่นั่นก็จัดในฮอลล์ความจุราวสองพันคนเท่านั้นและขายไม่หมดด้วย

โดยรวมแล้วคอนเสิร์ตของซอนมีสิ่งที่ดีและน่าผิดหวังพอๆ กัน ส่วนที่น่าชื่นชมมากคือเรื่องของวิชวลทั้งหลายของซอนมี ไม่ว่าจะการเต้น การขยับท่าทาง ภาษาร่างกาย เสื้อผ้าหน้าผม การส่งสายตามายังคนดู ทุกอย่างถือว่ามีเสน่ห์อย่างเหลือล้น แทบไม่มีวินาทีไหนเลยที่ออร่าของเธอจะไม่เปล่งประกายออกมา

ส่วนที่น่าเสียดายคือ เธอแทบจะไม่ร้องสดเลย เพลงเต้นเธอก็ลิปซิงค์ (อันนี้ยังพอเข้าใจได้) หรือบางเพลงที่ร้องสดก็มีการเปิด backing track ดังมาก จนแทบฟังไม่รู้เรื่องว่าเธอกำลังร้องสดอยู่หรือเปล่า อันที่จริงไม่ใช่แค่ซอนมีเท่านั้น แต่ช่วงหลังมาพวกรายการเพลงเกาหลีทั้งหลายก็ล้วนใช้ backing track เป็นส่วนใหญ่ กลายเป็นว่าเราแทบจะไม่ได้ยินเสียงสดๆ ของศิลปินอีกต่อไปแล้ว ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าอยู่เหมือนกัน

แม้ว่าโชว์ของซอนมีอาจจะไม่ได้ดีจนรู้สึกว่าคุ้มค่ากับค่าตั๋วเครื่องบิน แต่สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกดีคือการได้เห็นภาพลักษณ์ปัจจุบันของเธอแบบสดๆ ตรงหน้า ในฐานะที่รู้จักเธอตั้งแต่สมัยอยู่วง Wonder Girls ก็ต้องนับว่าเธอมาไกลมาก

และการเดินทางไกลเหล่านี้ก็มาจากการเลือกก้าวของเธอเอง