พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อพิจารณามาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ร่วมกับตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศ ในประเด็นการติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ลักลอบเข้าประเทศจากอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย รวมถึงมาตราการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศ ในรูปแบบของวีซ่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้พบตัวเลขผู้ติดเชื้อจากผู้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศทั้งหมด 32 ราย โดย 2 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ เนื่องจากมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้มีมาตรการคุมเข้มและสอบสวนโรค
ขณะที่ทาง สมช. ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง ทหารและผู้ว่าราชการจังหวัด คุมเข้มและดูแลไม่ให้มีการลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยตรวจติดตามให้ทุกคนเดินทางเข้ามาตามช่องทางที่ถูกกฎหมาย เพื่อตรวจคัดกรองโรคและกักตัว 14 วัน ซึ่งถือเป็นมาตรการเชิงรุกที่สามารถตรวจจับได้เร็วและไม่แพร่เชื้อในวงกว้าง
พร้อมกันนี้ ยืนยัน จ.เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ที่พบผู้ติดเชื้อ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี และมีมาตรการคุมเข้ม และไม่พบผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาเพิ่มเติม ดังนั้นขอประชาชนอย่ากังวล และ จ.เชียงใหม่ เชียงราย มีความปลอดภัย สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่ขอเน้นย้ำให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ และหลีกเหลี่ยงอยู่ในสถานที่แออัด
พร้อมให้ความมั่นใจว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือ สถานประกอบการ สถานบันเทิง และบ้านพัก ถ้าพบผู้ที่เดินทางมาจากเมียนมา ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเพื่อให้ไปตรวจสอบทันที
จาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ เร่งดำเนินการผ่อนคลายมาตรการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มเติม ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศ จึงเตรียมให้ที่ประชุมเสนอนายกรัฐมนตรี เห็นชอบกรณีที่จากเดิมอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยไม่ต้องตรวจลงตรา ซึ่งมี 56 ประเทศ รวมถึงประเทศที่มีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรา คือ ประเทศรัสเซียนั้น
รองอธิบดีกรมการกงสุล กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบว่าจากเดิม 30 วัน ที่นักท่องเที่ยวสามารถขอต่อวีซ่าได้ ให้ขยายเป็น 45 วัน เพื่อชดเชยในช่วงเวลากักตัว 14 วัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าเมื่อขยายเวลาการพำนักในไทยแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิม 10,000 คน เป็น 20,000 คน ต่อเดือน
ทั้งนี้มั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุขจะควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดได้ โดยปัจจุบันมีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวให้สามารถเดินทางเข้ามาได้ถึง 1,000 คน ซึ่งหลังจากเสนอนายกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว จะขอให้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ทันที
อ่านเพิ่มเติม