นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า ผมดูคลิปข่าวที่ตำรวจระยองใช้กำลังบังคับเอาตัวประชาชนที่ออกมาถือป้ายกระดาษขึ้นรถกระบะแล้วนำตัวไปควบคุมด้วยความรู้สึกสังเวชและรังเกียจความไร้ศักดิ์ศรีของตำรวจนั้น การที่ประชาชนออกมาถือป้ายดังกล่าวถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญมาตรา 36 ถ้อยคำที่ปรากฏในป้ายทั้งสองไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายอาญาอันจะทำให้ตำรวจมีอำนาจควบคุมตัวผู้ถือป้ายไปควบคุมหรือดำเนินคดี การกระทำของตำรวจจึงเป็นความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายโดยมีอาวุธและมีผู้ร่วมกระทำความผิดเกินห้าคนขึ้นไป
ทั้งนี้ ตนเห็นพฤติกรรมของตำรวจที่ทำกับประชาชนแล้วรับไม่ได้จริงๆ ตำรวจมีหน้าที่รักษากฎหมายเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม เรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แต่ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ใช้กำลังกับประชาชนและเป็นผู้กระทำความผิดเสียเองจึงสมควรจะถูกประณามและถูกดำเนินคดีไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง จึงเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้มีการสอบสวนและดำเนินคดีกับตำรวจที่กระทำความผิดดังกล่าว พยานหลักฐานมีทั้งพยานบุคคลและคลิปข่าว ตำรวจสองคนที่แต่งเครื่องแบบยศพันตำรวจเอกทั้งคู่ คนหนึ่งเป็นรองผู้บังคับการส่วนอีกคนเป็นผู้กำกับ
"ผมได้ข่าวว่าเมื่อเกษียณแล้วท่าน ผบ.ตร. จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม.ลองแสดงความกล้าหาญให้ประชาชนได้พึ่งพา เพราะถ้าอยู่ในตำแหน่งแล้วยังไม่สามารถปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจและไม่สามารถคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้ ท่านจะเอาอะไรไปหาเสียง ตำรวจส่วนตำรวจที่ทำกับประชาชนแบบนี้เสียศักดิ์ศรี โคตรกระจอกครับ" นายวัฒนา ระบุ
"จิรายุ" จี้อย่า 2 มาตรฐาน ต้องจัดการตำรวจระยองทำเกินกว่าเหตุ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ อัยการฯ กล่าวว่าตามที่รัฐบาลอนุญาตให้เครื่องบินทหารของประเทศอียิปต์เข้ามาในราชอาณาจักร แต่ปล่อยปละละเลยไม่กักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 เป็นเหตุให้ทหารอียิปต์ที่มากับเครื่องบินดังกล่าวออกมาแพร่เชื้อไวรัสสร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระยอง ทำให้ธุรกิจและการท่องเที่ยวได้รับความเสียหาย เป็นเหตุให้วานนี้นายกรัฐมนตรีต้องเดินทางไปจังหวัดระยองเพื่อแก้ไขความผิดพลาด นั้น
ขณะที่นายกรัฐมนตรียังเดินทางมาไม่ถึง ได้มีพี่น้องประชาชนถือป้ายกระดาษ อันถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญมาตรา 36 และปราศจากอาวุธ ถ้อยคำดังกล่าวแม้จะมีลักษณะรุนแรงแต่ก็มิได้ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ระหว่างนั้นเองได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้ามาควบคุมตัวผู้ถือป้ายดังกล่าวโดยใช้กำลังบังคับข่มขืนใจนำตัวขึ้นรถยนต์กระบะออกไปจากที่เกิดเหตุ การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถือเป็นการหน่วงเหนี่ยว กักขัง หรือทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายอันเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 และเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
โดยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ประชาชนไม่มีที่พึ่ง จึงเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบการทำงานของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ให้ดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญาแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่กระทำความผิดต่อกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานผลการดำเนินการให้รัฐสภาเพื่อทราบเพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป
นายจิรายุ กล่าวอีกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นตรงกันว่าจะต้องทำเรื่องนี้ให้ความจริงปรากฏโดยในวันนี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยได้เดินทางไปที่จังหวัดระยองและเรียกร้องให้รัฐบาลต้องเยียวยาให้กับชาวระยองทันที
นอกจากนี้ตน ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ขอเรียกร้องให้ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ อย่าได้นิ่งนอนใจในฐานะตัวแทนประชาชนท่านต้องทำความจริงให้ปรากฏและผดุงความยุติธรรมให้กับประชาชนไม่ว่าเขาจะเป็นใครในประเทศนี้ แค่ชูป้ายตำรวจจะทำอย่างกับฆาตกรไม่ได้ นายจิรายุกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :