นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน พร้อม น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาล หรือ สน.ปทุมวัน เพื่อแสดงอารยะขัดขืน ไม่ยอมรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะไม่หนีคดี แต่จะไม่เข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ฉุกเฉิน และออกหมายเรียกให้มารายงานตัวในวันนี้ (30 มิ.ย.) จากกรณีจัดกิจกรรม "ทวงความยุติธรรมให้ผู้ถูกอุ้มหาย" เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.
โดยมีการแสดงสำเนาหมายเรียกของตำรวจและฉีกต่อหน้าสื่อมวลชน บริเวณด้านหน้า สน.ปทุมวัน ขณะที่มีประชาชน มาให้กำลังใจประมาณ 30 คน รวมถึงนายสมยศ พฤกษาเกษมสุขแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยด้วย
นอกจากนี้มีการอ่านจดหมายเปิดผนึกจาก 2 นักศึกษาถึงนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อห้ามการชุมนุมมากกว่าจำกัดการแพร่เชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นการหวังผลทางการเมือง อย่างชัดเจน และยืนยันว่า ไม่ควรตั้งข้อหาทั้งสองคน ตั้งแต่ต้น อีกทั้งไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะโครงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก และย้ำอีกด้วยว่าจะไม่ขอปฏิบัติตามกฎหมายเผด็จการฉบับนี้อีกต่อไปและขอให้ผู้มีอำนาจจงระลึกว่า หากยังใช้กฎหมายกฎกีดกั้นประชาชน ต่อไปจะทำให้กฎหมายไทยสิ้นความศักดิ์สิทธิ์และเมื่อถึงเวลานั้นจะไม่มีกฎหมายมาตราใดคุ้มครองผู้มีอำนาจได้
นายพริษฐ์ เชื่อว่า หลังจากเปิดภาคเรียนการศึกษามหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดนักศึกษาจะรวมกันในขอบเขตทั่วประเทศและหากรัฐบาลยังอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไป การออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็จะเป็นวาระหลักของกระบวนการนักศึกษาประชาชน
น.ส.ปนัสยา ระบุว่า รอบนี้เป็นการออกหมายเรียกครั้งแรกและจะต้องมีครั้งที่ 2 ซึ่งคนและนายพริษฐ์ ก็จะเดินทางมาแสดงอารยะขัดขืนโดยไม่เข้ารายงานตัว ต่อสน.ปทุมวัน อีกครั้ง และย้ำว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมก็ดำเนินการได้เลย แต่ยืนยันว่านักศึกษาขอปฏิเสธการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมโดยเฉพาะการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน สกัดกั้นการเคลื่อนไหวและละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน