ไม่พบผลการค้นหา
มีประชาชนชาวยูเครนอย่างน้อย 22 รายถูกสังหาร และได้รับบาดเจ็บอีก 50 ราย หลังจากการยิงจรวดโจมตีสถานีรถไฟของยูเครน ในขณะที่สงครามเพิ่งมีอายุครบรอบ 6 เดือนไปเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ซึ่งตรงกับวันอิสรภาพของยูเครนจากอดีตสหภาพโซเวียตเมื่อ 31 ปีก่อน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนเผยต่อที่ประชุมสหประชาชาติว่า จรวดจากทางฝั่งรัสเซียถูกยิงมาใส่สถานีรถไฟในเมืองชาปลิน ซึ่งตั้งห่างออกไปจากโดเนตสก์ทางตะวันตก 145 กิโลเมตร ติดกันกับพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งกำลังเป็นสมรภูมิสู้รบกันระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทั้งนี้ เซเลนสกีระบุว่าตัวเลขการเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวอาจพุ่งสูงขึ้นอีก

คิริลล์ ทิโมเชนโก รองหัวหน้าสำนักประธานาธิบดียูเครนเปิดเผยว่า มีเด็กชายวัย 11 ขวบ เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยจรวดในครั้งนี้ของรัสเซียด้วย อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าวันอิสรภาพของยูเครน ทางการยูเครนได้ออกมาเตือนให้ประชาชนงดการรวมตัวกันจำนวนมากในที่สาธารณะ เพื่อหลีกเลี่ยงแผนการของรัสเซีย ที่จะฉวยโอกาสในวันดังกล่าวเพื่อการมุ่งเป้าโจมตีใส่ประชาชน

วันอิสรภาพของยูเครน ซึ่งตรงกันกับวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ชาวยูเครนเฉลิมฉลองกับการประกาศเอกราชของยูเครนจากอดีตสหภาพโซเวียตเมื่อปี 2534 อย่างไรก็ดี ทางการยูเครนขอร้องให้ประชาชนงดการเฉลิมฉลองและเก็บตัวอยู่ในบ้าน ในขณะที่ทางการสหรัฐฯ และชาติตะวันตกได้ออกมารายงานว่า หน่วยข่าวกรองของพวกตนพบว่า รัสเซียกำลังวางแผนเปิดศึกการโจมตีในระยะใหม่ระยะใหญ่อีกครั้งในช่วงเวลาอันใกล้นี้

ในความคืบหน้าล่าสุดแยกกันกับเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งประกาศมอบความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนเพิ่มอีกเป็นมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) ซึ่งหมายรวมถึงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน ปืนใหญ่ ระบบป้องกันตอบโต้โดรน และอุปกรณ์เรดาร์ เพื่อยืนยันว่าสหรัฐฯ ยังคงให้การสนับสนุนยูเครนในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย

นอกจากนี้ ผู้นำชาติต่างๆ ของยุโรปยังได้เดินทางไปยังกรุงเคียฟของยูเครน เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันต่อยูเครนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่ได้เดินทางเยือนกรุงเคียฟโดยไม่ได้มีการประกาศก่อนล่วงหน้า ซึ่งนับว่าเป็นการเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งที่สามของจอห์นสันนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น โดยจอห์นสันชี้ว่ายูเครน “สามารถและจะชนะสงครามนี้”

รัสเซียยังคงเล็งเป้าและยกระดับการรุกรานและโจมตียูเครน โดยเฉพาะในวันอิสรภาพยูเครนที่ประกาศตัวแยกออกจากอดีตสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ ตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางการยูเครนระบุว่ามีกำลังพลทหารของตนเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 9,000 นาย และมีประชาชนที่ตายลงจากการสังหารของรัสเซียกว่าอีกหลายพันคน ทั้งนี้ มีประชาชนอีกหลายล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่และลี้ภัยออกนอกประเทศ

“ชาติแห่งใหม่ได้ปรากฏขึ้นบนโลกในวันที่ 24 ก.พ. เวลาตีสี่ มันไม่ได้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นใหม่ ชาติที่ไม่หลั่งน้ำตา กรีดร้อง หรือหวาดกลัว ชาติที่ไม่หนีไปไหน ไม่ยอมแพ้และไม่มีวันลืม” เซเลนสกีกล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 31 ปี การประกาศอิสรภาพของยูเครนจากอดีตสหภาพโซเวียต ทั้งนี้ เซเลนสกียืนยันว่ายูเครนจะเดินหน้าสู้ต่อไป จนกว่าจะได้ไครเมียและภูมิภาคทางตะวันออกที่ถูกรัสเซียยึดไปคืนมา “อะไรสำหรับเราที่จะยุติสงครามหรือ เราเคยบอกว่าสันติภาพ ตอนนี้เราต้องการชัยชนะ” เซเลนสกีระบุ

อย่างไรก็ดี ทางการของสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่า รัสเซียกำลังวางแผนจัดทำประชามติในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน เพื่อการผนวกรวมพื้นที่ดังกล่าวเข้าเป็นของรัสเซีย โดยทางการรัสเซียกำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อการชักจูงให้เสียงประชามติออกมาว่า ประชาชนในพื้นที่ดอนบาสต้องการผนวกตนเองเข้ารวมกับรัสเซีย แม้ในขณะนี้ที่รัสเซียจะหวั่นเกรงว่า ผลคะแนนประชามติในการผนวกรวมเข้าเป็นดินแดนของรัสเซียอาจมีออกมาค่อนข้างต่ำ

ในทางตรงกันข้าม ทางการรัสเซียได้ออกมาอ้างว่า ตนเองไม่ได้เล็งเป้าการโจมตีใส่ประชาชน และการชะลอตัวลงของการรุกรานจากรัสเซียในยูเครน เป็นไปเพื่อสันติภาพและลดความสูญเสียแก่ชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ เซเลนสกีย้ำเตือนต่อประชาชนชาวยูเครนให้ยังคงระแวดระวังการโจมตีของรัสเซียต่อไป และขอให้ประชาชนเฝ้าฟังเสียงเตือนภัยทางอากาศอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยจากการโจมตีของรัสเซีย


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/aug/24/at-least-15-killed-in-russian-strike-on-rail-station-on-ukraines-independence-day?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR2who46gDvKAg4y_GkgQyapykyTOgSSFRGffrYR0SpRZBxnYrvkUB5rw4w