เจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บ 23 คน และผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 ราย จากเหตุเกสต์เฮาส์ที่ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 3 ม.ค. และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นเด็ก 6 คน และผู้หญิง 14 คน แต่ไม่มีรายละเอียดว่าทำไมจึงมีเด็กอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม ทางการยังได้ประกาศว่าจะยุติภารกิจกู้ชีพคนงานที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่มแล้วในวันนี้ (5 ม.ค.) แม้จะมีการคาดการณ์ว่ายังมีคนติดอยู่ใต้ซากอาคารประมาณ 30 คน
เกสต์เฮาส์แห่งนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นอาคารคอนกรีต 7 ชั้นในจังหวัดแกบ จังหวัดชายทะเลห่างจากกรุงพนมเปญออกไปประมาณ 160 ก.ม. โดยผู้ว่าการจังหวัดแกบกล่าวว่า เจ้าของเกสต์เฮาส์ดังกล่าวเป็นคู่สามีภรรยาชาวกัมพูชา และทั้งคู่ถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำแล้ว
แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้ดี แต่ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวว่า อาคารถล่มไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในกัมพูชาเท่านั้น ที่อื่นก็มี รวมถึงสหรัฐฯ ด้วย ดังนั้นจะไม่มีเจ้าหน้าที่ในจังหวัดแกบถูกไล่ออกแต่อย่างใด
ปัจจุบัน การก่อสร้างในกัมพูชามีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากจีน แต่มาตรฐานในการก่อสร้างรวมถึงการดูแลความปลอดภัยของคนงานยังไม่ดีนัก โดยอาคารถล่มในจังหวัดแกบเกิดขึ้นเพียง 6 เดือน หลังจากมีคนเสียชีวิต 28 ราย เนื่องจากอาคารก่อสร้างในจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งครั้งนั้นมี 7 คนถูกดำเนินคดีทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนา และฮุน เซนก็ไล่เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติออก 1 คน
ที่มา : Channel News Asia, The Guardian