นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (เอสซีบี) ประกาศแผนการปล่อยแอปพลิเคชันส่งอาหารภายใต้ชื่อ 'โรบินฮูด' (Robinhood) ในฐานะโครงการซีเอสอาร์ขององค์กร พร้อมย้ำว่าไม่มีรูปแบบธุรกิจในการแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นๆ ในตลาด หรือหวังจะไปล้มผู้เล่นรายใหญ่แบรนด์ต่างประเทศที่กุมสัดส่วนตลาก ณ ปัจจุบัน

• อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (เอสซีบี)

นายอาทิตย์ ชี้ว่า ความแตกต่างของ 'โรบินฮูด' กับแอปพลิเคชันสั่งอาหารอยู่ที่ แพลตฟอร์มของไทยพาณิชย์จะไม่คิดค่าธรรมเนียม (GP) กับฝั่งร้านค้าหรือผู้ขับรถ จึงเป็นเหตุผลให้ราคาสินค้ารวมค่าขนส่งซึ่งคิดตามระยะทางจริงที่ผู้บริโภคต้องจ่ายจะไม่มีต้นทุนแอบแฝงนอกจากนี้ ด้วยความได้เปรียบในฐานะสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการร้านค้าที่เป็นพันธมิตรกับแอปฯ จะได้รับค่าสินค้าภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากที่ลูกค้ายืนยันการรับสินค้าเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีเงื่อนไขว่าขั้นตอนการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันต้องเป็นระบบไร้เงินสดหรือใช้การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่างเดียวเท่านั้นผ่านระบบของธนาคารใดก็ได้

อย่างไรก็ตาม ไทยพาณิชย์ ชี้ว่าเม็ดเงินที่ลงทุนกับแอปฯ ดังกล่าวอยู่ที่ราวๆ 100 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าฝั่งคู่แข่งมาก เนื่องจากธนาคารไม่ได้เข้าไปลงทุนเองทั้งหมด แต่ใช้การร่วมมือกับ บริษัท สกู๊ตตาร์ บียอนด์ จำกัด ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพเรียกแมสเซ็นเจอร์ออนไลน์ในมิติความร่วมมือทางคนขับรถส่งสินค้า ขณะที่ร้านค้าอีกราวๆ 20,000 ร้านในมือส่วนหนึ่งเป็นฐานข้อมูลเดิมที่ธนาคารมีอยู่แล้ว และมองว่าตัวเลขร้านค้าจะสามารถขึ้นไปอยู่ที่ 40,000 - 50,000 ร้านได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยมองว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ สำหรับประเด็นที่ก่อนหน้าที่ไทยพาณิชย์ลงนามความร่วมมือกับแอปพลิเคชันขนส่ง อาหารเก็ท (GET) ประธานบริหารฯ ชี้แจงว่า การลงนามครั้งนั้นเป็นแค่ความตกลงร่วมมือด้านระบบการเงิน ไม่ได้มีส่วนใดห้ามไม่ให้ไทยพาณิชย์หันมาทำแอปพลิเคชันขนส่งอาหาร แต่ก็ชี้แจงว่ามีการพูดคุยกับฝั่งเก็ทเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้มองว่าเป็นการแทรกแซงตลาดผู้เล่นที่มีในปัจจุบัน แต่หากจะทำให้เกิดการแข่งขันเรื่องราคาที่เป็นธรรมขึ้นก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับผู้บริโภค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;

• 'บริการส่งอาหาร' โต 35,000 ล้านบาท/ปี เพราะคนไทยขี้เกียจทำอาหาร