ประชาชนในกรุงนิวเดลีและนครมุมไบ ซึ่งมีประชากรรวมกันเกือบ 40 ล้านคน รวมถึงในรัฐอุตตรประเทศที่มีประชากร 200 ล้านคน จะต้องใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ โดยหัวหน้าหน่วยงานสาธารณสุขกรุงนิวเดลีระบุว่า การสวมหน้ากากสามารถช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างมาก ดังนั้น ทางการจึงตัดสินใจออกคำสั่งให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากเมื่อก้าวออกจากบ้าน 

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทั่วโลกเผชิญปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อมุขมนตรีรัฐอุตตรประเทศได้เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่าประชาชนสามารถใช้ผ้ากัมชาหรือผ้าฝ้ายชนิดต่างๆ มาเป็นผ้าปิดปากแทนได้  

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแนะนำผู้ที่อยู่ในประเทศทุกคนให้ปิดจมูกและปากด้วยหน้ากากจากวัสดุที่สามารถใช้ซ้ำและผลิตได้เอง รวมถึงเผยแพร่คำแนะนำออนไลน์ถึงวิธีการทำหน้ากากด้วยตัวเอง ขณะที่กฎใหม่นี้มีขึ้นหลังตัวเลขทางการชี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5,200 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 149 ราย 

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ทางการจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อให้มากขึ้น เพื่อระบุให้ได้ว่าไวรัสนี้แพร่ระบาดไปอย่างกว้างขวางแค่ไหนแล้วในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างอินเดีย ก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียได้ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 21 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยประชาชนได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อใช้บริการที่จำเป็นเท่านั้น เช่นการซื้อของกินของใช้และยารักษาโรคแต่จำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียก็ยังเพิ่มขึ้น

ส่วนเมื่อวันพุธ (8 เม.ย.) ที่ผ่านมาได้มีการปิดหลายย่านในรัฐอุตตรประเทศและนิวเดลี โดยห้ามประชาชนออกจากบ้านและทางการให้สัญญาจะส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ให้ประชาชนเหล่านี้ถึงหน้าประตูบ้าน ซึ่งมาตรการเข้มงวดนี้มีขึ้นท่ามกลางการถกเถียงที่เพิ่มขึ้นว่า ควรขยายมาตรการล็อกดาวน์ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 15 เม.ย. นี้ออกไปอีกหรือไม่  

เมื่อเดือนที่ผ่านมารัฐบาลอินเดียได้เผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.7 ล้านล้านรูปี โดยมีทั้งการโอนเงินสดและมาตรการความมั่นคงทางอาหารช่วยเหลือคนยากจนหลายล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ขณะที่ล่าสุดก็มีรายงานงานว่ารัฐบาลอินเดียอาจประกาศแผนช่วยเหลือทางเศรษฐกิจชุดที่ 2 ออกมาเร็วๆ นี้ โดยมุ่งช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในการรับมือกับการระบาดของไวรัส แต่โฆษกกระทรวงการคลังของอินเดียปฏิเสธให้ความเห็นต่อรายงานดังกล่าว 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากรัฐบาลอินเดียชี้ว่าธุรกิจขนาดเล็กคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของมูลค่าเศรษฐกิจ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของอินเดีย และมีการจ้างแรงงานกว่า 500 ล้านคน 

อ้างอิง CNA/The Straits Times